เด็กจบใหม่ไฟแรง ผันตัวเป็นเกษตรกรเต็มตัว นำความรู้ที่เรียนมานำมาปรับใช้สู่ฟาร์มผักอารมณ์ดี อินทรีย์แท้ 100% ไอเดียไม่ธรรมดา นำวัสดุเหลือใช้มาทำแปลงปลูกผักสู่การสร้างอาชีพ มอบสิ่งที่ดีให้กับผู้บริโภค
คุณชลิดา จันทร์ปา หรือ มะหมี่ เจ้าของฟาร์มผักอารมณ์ดี อินทรีย์แท้ 100% – Roots to Leaves organic จังหวัดพะเยา เรียกได้ว่าเป็นเด็กจบใหม่ไฟแรง หลังจากเรียนจบคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผันตัวเองเป็นเกษตรกรเต็มตัวด้วยการนำความรู้ที่เรียนมานำมาปรับใช้ในฟาร์ม ซึ่งคุณมะหมี่ เล่าว่า “การเกษตรมันไม่ได้มีแค่หน้างานเดียวจากเกษตรรุ่นพ่อรุ่นแม่เราทำ เขาไม่ได้รู้ถึงการพัฒนาและการตลาด ว่าสามารถต่อยอดแปรรูปผลผลิตเพิ่มมูลค่าได้ คิดว่าการต่อยอดของการเกษตรมันไปได้หลายทางมากๆ ไม่ว่าจะด้านสุขภาพ ด้านความงาม หรือว่าคาเฟ่ที่กำลังเป็นที่นิยมซึ่งมันสามารถต่อยอดขึ้นไปได้เรื่อยๆ”
จุดเริ่มต้นก่อนจะมาทำแปลงผักอินทรีย์บนพื้นที่ 2 งาน ก่อนหน้านี้ปลูกพริกเป็นแปลงเคมี ซึ่งตอนนั้นที่ปลูกพริกเจอโรคแมลงเยอะ การจัดการก็ต้องใช้สารเคมี กลิ่นสารเคมีแรง เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เลยเป็นจุดเริ่มต้นเปลี่ยนเป็นแปลงผักอินทรีย์ ถ้าทำให้เป็นอินทรีย์จะดีทั้งผู้ปลูกและผู้บริโภค เป็นเกษตรยั่งยืนมันอาจจะดีกับเรามากกว่า ส่วนที่มาของชื่อ “ผักอารมณ์ดี” มาจากถ้าเราได้มอบสิ่งที่ดีให้กับผู้บริโภค ซึ่งในผักอินทรีย์จะมีคุณค่าโภชนาการที่เต็มร้อย ไม่มีสิ่งปนเปื้อนจากสารเคมี
ส่วนความรู้เพิ่มเติมตอนนี้กำลังเข้าไปเป็นสมาชิกกลุ่มของ Smart Farmer เพื่อที่จะเอามาต่อยอดขยายเครือข่ายของการทำธุรกิจ ถ้าเป็นการเกษตรคือ ต้องหาข้อมูลอยู่ตลอดเวลา ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการใช้สารชีวภัณฑ์หรือว่าการผลิตสารสกัดที่ใช้ในแปลงอินทรีย์ เนื่องจากแปลงอินทรีย์ไม่สามารถใช้สารสังเคราะห์ได้
ไอเดียในการทำแปลงผักของเรา มาจากการที่หาวัสดุที่เหลือใช้ นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยหาไอเดียจากแปลงผักของคนอื่นบ้าง ใน Pinterest บ้าง นำมาปรับให้เป็นแปลงผักของเราเอง ซึ่งนอกจากจะได้แปลงปลูกผักแล้ว ยังทำให้สวนเราสวยขึ้น เพราะมีการนำวัสดุมาทำแปลงที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไม้ไผ่ อิฐบล็อก กระเบื้อง เศษไม้ที่มีอยู่ สามารถนำมาทำแปลงผักได้ช่วยประหยัดต้นทุนไปได้เยอะ
สำหรับการปลูกผักไม่ว่าจะใช้วัสดุอะไรก็ไม่ได้ทำให้ผลผลิตต่างกันมาก แต่จะต่างกันที่เรื่องของอายุการใช้งาน ถ้าใช้อิฐบล็อกทำแปลงก็จะสามารถใช้ได้นานกว่าและทนกว่า สามารถใช้ได้ถึงสิบปี ส่วนไม้ไผ่อายุการใช้งานจะอยู่ที่ 3-5 ปี ไม้ไผ่ที่เอามาทำแปลงผักก็มาจากที่สวนเราเองที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรจึงมองว่าไม้ไผ่ก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการทำแปลงผักได้ ช่วยให้ประหยัดต้นทุนในการทำแปลงเลยทีเดียว
การทำแปลงจากไม้ไผ่ ซึ่งจะต้องประกอบไปด้วยไม้หัว ท้าย และด้านข้าง ซึ่งขนาดจะแตกต่างตามขนาดแปลงของแต่ละคน ถ้าแปลงผักของคุณมะหมี่เองจะใช้เป็นขนาดหน้ากว้าง 1 เมตร ยาว 5 เมตร
ขั้นตอนการทำแปลงจากไม้ไผ่
– เลือกตัดไม้ไผ่แก่ที่มีขนาดกลาง เส้นผ่าศูนย์กลาง 7-10 เซนติเมตร ลำต้นตรง ไม่โค้งงอจนเกินไป
– วัดขนาดตามขนาดแปลงที่ต้องการ โดยจะแบ่งเป็นความกว้างและความยาวของแปลงผัก
– ทำหลักแปลงในแต่ละด้านจะใช้หลัก 4 หลัก ในการตอกเพื่อทำเป็นช่องใส่ไม้ ทำหลักสูงกว่าความสูงแปลงที่ต้องการประมาณ 10-15 เซนติเมตร เพื่อที่จะตอกลงไปในดิน
– นำหลักไม้ไปบริเวณมุมแปลงเพื่อให้วัดระยะในการตอกหลักที่จะทำเป็นช่องใส่ไม้
– นำหลักที่ทำไว้มาปักเป็นช่องใส่ไม้ โดยวัดจากหลักที่ปักเป็นมุมเข้ามาประมาณ 5-10 เซนติเมตร เพื่อให้
หลักหนีบท่อนไม้ไผ่ที่จะใส่ลงไป
– นำไม้ไผ่ที่ตัดเป็นท่อนมาใส่ในช่องใส่ไม้ แต่ต้องไม่สูงเกินหลักไม้ที่ตอกไว้ เพื่อให้เหลือพื้นที่สำหรับมัดปลายหลัก
– ปักหลักและวางท่อนไม้ไผ่ตามความสูงที่ต้องการ จากนั้นนำเชือกมามัดปลายหลังเพื่อยึดไม้ก็เป็นอันเสร็จ
ไม้ไผ่ที่ใช้จะเป็นไม้ไผ่ซางหม่น จะมีลำต้นที่ตรง เนื้อของเขาค่อนข้างที่จะหนา เลยคิดว่าถ้านำมาทำแปลงผักอาจจะได้แปลงผักที่ไม่คดเคี้ยวและใช้ได้นาน ลดต้นทุนการผลิตของเราได้เยอะเลย หลังจากได้ตัวแปลงไม้ไผ่แล้ว ถ้าแปลงของคุณเป็นแปลงที่มีดินอยู่แล้วจะรองด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ ใบไม้แห้งแล้วก็ใส่ดินลงไป พื้นที่ด้านข้างจะมีรูระหว่างไม้ไผ่เพื่อที่ไม่ให้ดินกระฉอกออกมา
ขั้นตอนการทำแปลงจากอิฐบล็อก
– ขุดดินให้เป็นร่องสำหรับใส่อิฐบล็อก ถ้าปลูกหญ้าเอาไว้ จึงต้องป้องกันไม่ให้หญ้าชอนไชเข้ามาได้ เป็นการสร้างความแข็งแรงไม่ให้ก้อนอิฐล้ม จึงต้องทำการขุดดินให้ลึกประมาณหนึ่ง
– ใส่อิฐบล็อกตามร่องที่ได้ขุดไว้
– โรยก้อนหินรอบๆ เพื่อสร้างความแข็งแรง และเพิ่มความสวยงาม
– หลังจากได้ตัวแปลงอิฐบล็อกแล้ว ถ้าแปลงของคุณเป็นแปลงที่มีดินอยู่แล้วจะรองด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ ใบไม้แห้งแล้วก็ใส่ดินลงไป
เทคนิคการเตรียมดิน
ส่วนผสม
– ดิน – มูลวัว – แกลบดิบ – แกลบดำ – ขุยมะพร้าว
สำหรับการปลูกผัก จะเน้นตั้งแต่การเตรียมดินต้องมีวัสดุที่เหมาะแก่การปลูก เช่น ดินจะต้องโปร่ง มีการอุ้มน้ำได้ดี จะมีการใช้มูลวัว มูลไก่ ขุยมะพร้าว แกลบดิบ ทำให้ดินโปร่งด้วยการใช้ใบก้ามปู หมักเป็นระยะเวลา 1 เดือน ก่อนจะนำไปใส่ในแปลงก็จะพร้อมปลูกได้
เมล็ดพันธุ์ที่นำมาใช้ในการปลูก จะเป็นเมล็ดพันธุ์อินทรีย์ของแม่โจ้ หากใครสนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่เพจศูนย์ปรับปรุงพันธุ์และผลิตเมล็ดพันธุ์ผักอินทรีย์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้เลย เรียกได้ว่าอินทรีย์ตั้งแต่เริ่มเลยจริงๆ หลังจากเริ่มปลูกก็ควรหมั่นดูแลรดน้ำ ใส่ปุ๋ยบำรุง 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์
ผลตอบรับผลผลิตไม่เพียงพอ มีหลายๆ คนสนใจติดต่อมาขอซื้อเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้กำลังจะขยายแปลงเพิ่ม เพื่อให้ผลผลิตพอต่อความต้องการของผู้บริโภค เพราะแนวโน้มของผักสวนครัวปลอดสาร มีจำนวนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนที่หันมาดูแลสุขภาพ
ในอนาคตก็มองว่าจะทำที่ตรงนี้ให้เป็นการปลูกอินทรีย์เพื่อแปรรูปด้วย หากใครสนใจก็สามารถติดต่อเรามาได้ ในอนาคตก็คิดว่าอาจจะมีปลูกดอกกุหลาบที่กินได้เอาไว้สำหรับเพื่อทำแยม แล้วก็จะมีเลม่อนที่เราปลูกนำผลผลิตของที่สวนมาแปรรูปเป็นสินค้าต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าจากวัตถุดิบที่มี
สำหรับคนที่สนใจหรือถ้าอยากปลูกผักอินทรีย์สามารถทักมาทางเพจหรือเข้ามาสอบถามกันได้ เป็นกำลังใจให้สำหรับคนที่เริ่มต้นในช่วงแรกในการปลูกผักตอนแรกอาจจะยาก เชื่อว่าทุกคนทำได้ เพื่อให้ทุกคนกินผักที่ดีปลอดสาร มีสุขภาพที่ดีปลอดภัย จากฟาร์มผักอารมณ์ดี อินทรีย์แท้ 100%
หากสนใจผักสวนครัวปลอดสาร และไอเดียการทำแปลงผัก สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เพจเฟซบุ๊ก : ผักอารมณ์ดี อินทรีย์แท้ 100% – Roots to Leaves organic หรือเบอร์โทรศัพท์ 097-981-4095