นักวิจัย/เจ้าของนวัตกรรม/เจ้าของข้อมูล :
นางสาวจีรภา ปัญญาศิริ
ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
ที่มา ข้อมูลเบื้องต้น : ในช่วงเข้าฤดูแล้ง เกษตรกรผู้ปลูกพืชผัก ต้องเฝ้าระวังการเข้าทำลายของเพลี้ยไฟพริก ในช่วงระยะยอดอ่อน ใบอ่อนและระยะตาดอกอ่อน เพลี้ยไฟพริกที่มีขนาดเล็กสีน้ำตาลอ่อน เพศเมียวางไข่ในเนื้อเยื่อพืชตามเส้นใบ ทั้งระยะตัวอ่อนและตัวโตเต็มวัย ทำลายพืชโดยดูดกินน้ำเลี้ยงตามใบ ดอก ผล ลักษณะการทำลายของเพลี้ยไฟพริก จะเป็นปากแบบเขี่ยดูด (Rasping-sucking) โดยใช้ปากส่วนที่เป็นแท่ง (Stylet) ดูดน้ำเลี้ยงจากส่วนของพืช ทำให้ใบหรือยอดอ่อนหยิกงอ ขอบใบหงิกม้วนงอขึ้น ดอกร่วง ผลบิดเบี้ยวเสียรูป
ความสำคัญของปัญหา : เพลี้ยไฟพริกเป็นแมลงศัตรูพืชที่สำคัญของพริกและยังเป็นพาหะของเชื้อไวรัสโรคพืชผัก ปัจจุบันได้มีการป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟพริกโดยใช้วิธีที่หลากหลาย ได้แก่ วิธีกล วิธีเขตกรรม ชีววิธีโดยการใช้แมลงศัตรูธรรมชาติและการใช้สารเคมี ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กำจัดเพลี้ยไฟพริกอย่างได้ผล แต่มีผลเสียที่จะตามมา คือ อันตรายของสารพิษที่มีต่อผู้ใช้และผู้บริโภคและการตกค้างสะสมของสารพิษในห่วงโซ่อาหาร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
จุดเด่นนวัตกรรม :
• กระบวนการควบคุมเพลี้ยไฟพริกนี้จะใช้สารชีวภัณฑ์ในรูปของสารแขวนลอยของสปอร์ที่ได้จากเชื้อ Purpureocillium lilacinus โดยฉีดพ่นให้ทั่วโดยเฉพาะบริเวณยอด ดอกและใบบริเวณใต้ใบและบนใบ สปอร์เชื้อรานี้จะสามารถควบคุมเพลี้ยไฟได้มากกว่า 90% (ทดสอบในระดับโรงเรือน)
• กระบวนการควบคุมเพลี้ยไฟพริกนี้ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการกำจัดแมลงศัตรูพืชด้วยชีววิธี ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อทั้งมนุษย์ พืช สัตว์และสิ่งแวดล้อมในระยะยาว และถือได้ว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมประชากรเพลี้ยไฟพริกเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ ที่เคยมีรายงานมา
ข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามที่ :
งานธุรกิจทรัพย์สินทางปัญญา สำนักงานจัดการสิทธิเทคโนโลยี (TLO)
โทรศัพท์ : 0 2564 7000 ต่อ 1357
Email : [email protected]
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
Email : [email protected]