“พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นอกจากจะเป็นแหล่งศึกษาดูงาน ตามภารกิจหลักในการดำเนินการเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ไทย และพระบรมวงศานุวงศ์ ด้านการเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงขับเคลื่อนงานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การปฏิบัติจริงด้วยการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ในรูปแบบพิพิธภัณฑ์มีชีวิตแล้ว ปีนี้เรายังเปิดพื้นที่ให้เครือข่ายเกษตรกรนำสินค้าเกษตรมาขาย พร้อมกับวางเป้าผลักดันสู่ศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นวัตกรรมด้านเกษตรของประเทศ และขยายผลเปิดศูนย์การเรียนรู้ฯ อีก 6 แห่ง ใน 4 จังหวัด ภายในปี 2566”
พลอากาศเอก เสนาะ พรรณพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บอกถึงก้าวสำคัญของพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ยุคใหม่ ที่เปิดพื้นที่ให้เกษตรกรเครือข่ายนำสินค้าเกษตร ทั้งสินค้าสด แปรรูป รวมต้นไม้ และสัตว์เลี้ยง เข้ามาขายในพื้นที่
ในช่วง 2 ปีกว่าที่ผ่านมา สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีการจำกัดผู้เข้าชม ขณะเดียวกันได้ปรับรูปแบบการเข้าชม เปิดกิจกรรมการเรียนรู้ ณ พิพิธภัณฑ์ฯ และผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ รวมทั้งการพัฒนา Virtual Museum หรือพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง และสื่อสารผ่านรายการออนไลน์ทำให้มียอดผู้เข้าชมมากขึ้น รวมถึงการจัดโครงการส่งเสริมการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง โครงการที่ส่งเสริมให้เกิดการรับรู้ความเข้าใจในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เรียนรู้จากทฤษฎีสู่การลงมือปฏิบัติในรูปแบบแนวคิด “สุข สนุก เรียนรู้ชัด ปฏิบัติได้จริง” ให้กับนักเรียน ประชาชน ผู้ที่สนใจในรูปแบบหมู่คณะที่มีจำนวนสูงกว่าเป้าหมายที่คาดไว้
สำหรับปีงบประมาณนี้พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงสู่สังคม และเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นวัตกรรมด้านเกษตรของประเทศ รวมทั้งขยายผลความร่วมมือไปยังภาคีเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ทั่วประเทศ โดยปัจจุบัน มีศูนย์เครือข่าย และศูนย์เรียนรู้เครือข่ายพิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ จำนวน 81 แห่งทั่วประเทศ และมีสมาชิกเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ถึง 72 จังหวัด และพร้อมเดินหน้าขยายผล เปิดศูนย์การเรียนรู้ฯ อีก 6 แห่ง ใน 4 จังหวัด ภายในปี 2566 นี้
พร้อมกันนี้ยังมีอีกหนึ่งภารกิจสำคัญเพิ่มเติมของการเผยแพร่องค์ความรู้ ภูมิปัญญา นวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง ปีนี้ยังมีการเผยแพร่ผ่านการจัดงานตลาดเศรษฐกิจพอเพียง ในทุกวันเสาร์-อาทิตย์ สัปดาห์แรกของเดือน ที่ทำมาได้ระยะหนึ่ง โดยเปิดพื้นที่ให้เกษตรกรเครือข่ายทั้งหมด นำผลผลิตทางการเกษตรของตัวเองเข้ามาขายได้ฟรี เพื่อให้เกษตรกรได้เรียนรู้ในการค้าขายด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันก็ได้ราคาที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ต้องผ่านพ่อค้า ผู้บริโภคก็ได้สินค้าคุณภาพในราคาที่ยุติธรรมอีกด้วย
“จากการได้รับการตอบรับที่เกินคาดจากผู้บริโภค เราจึงเตรียมขยายการจัดงานตลาดเศรษฐกิจพอเพียงเพิ่มเติมอีกหนึ่งครั้งในวันเสาร์-อาทิตย์ในสัปดาห์ที่สามของเดือน ตามเสียงเรียกร้องของผู้เข้าร่วมงานที่ต้องการสินค้าปลอดภัยได้คุณภาพ และเป็นการเพิ่มศักยภาพเครือข่าย และช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย ให้ถึงมือผู้บริโภคเพิ่มมากยิ่งขึ้น”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2529-2212-13, 08-7359-7171 คลิกดูรายละเอียดได้ที่ www.wisdomking.or.th หรือ facebook/ Instagram/Line ID : @wisdomkingmuseum และ Youtube พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ.