ค้นหา

ดีเอสไอออกหมายจับเพิ่ม “บ.ชิปปิ้ง-นายทุน” เอี่ยวคดีนำเข้าหมูเถื่อน 161 ตู้

https://www.thairath.co.th/agriculture/agricultural-policy/2740252
เข้าชม 206 ครั้ง

อธิบดีดีเอสไอ เผย ออกหมายจับ บ.ชิปปิ้ง-นายทุน โยงคดีหมูเถื่อน 161 ตู้ที่ท่าเรือแหลมฉบังอีก 3 ราย มีประสานเข้ามอบตัวแล้ว เผยหมูเถื่อนตอนนี้ใช้วิธีกองทัพมด พักไว้ประเทศเพื่อนบ้านก่อนส่งเข้าไทย ทางคดีพบเบาะแสเป็นผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ที่ ขรก.ช่วยอำนวยความสะดวก

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 พ.ย. ที่กองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 2 อาคารเอ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า หลังประชุมพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 59/2566 กรณีการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังนายกรัฐมนตรีกำชับเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษรับดำเนินคดีของกลางซากเนื้อหมูเถื่อน 161 ตู้ ที่ยึดจากท่าเรือแหลมฉบัง ทำให้พบการกระทำผิดบุคคลกลุ่มแรก คือ บริษัทชิปปิ้งนำเข้า ซึ่งแจ้งข้อหาแล้ว 5 บริษัท จำนวน 6 ราย

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า วันนี้ได้ออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 3 บริษัท เมื่อขยายผลสอบสวนพบว่ากลุ่มบริษัทชิปปิ้ง ลักลอบนำเข้ามาก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ปี 2563-2566 ในลักษณะคล้ายกัน 2,836 ตู้ จึงได้แยกเป็นคดีพิเศษอีกคดีหนึ่ง พบว่ามีกลุ่มนายทุนเป็นผู้ว่าจ้างให้บริษัทชิปปิ้งนำเข้ามาจำนวนมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนกลุ่มที่สองเป็นกลุ่มนายทุนที่สั่งหมูเถื่อนเข้ามา ดีเอสไอ ออกหมายจับแล้ว 2 รายที่หลบหนีไปต่างประเทศ ล่าสุดประสานขอเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ คาดไม่เกินวันที่ 15 พ.ย. นี้ ซึ่งเป็นคนสำคัญที่นำเนื้อหมูเถื่อนไปฝากไว้ห้องเย็น จ.สมุทรสาคร จำนวน 7.5 ตัน เพื่อสอบถามใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง และอีกกลุ่มที่ดูแลห้องเย็นที่กระจายหมูเถื่อนไปแช่ที่ต่างๆ โดยจะมีพยานเข้าให้การเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวด้วยว่า ดีเอสไอเป็นหน่วยงานรับเรื่องดำเนินคดีผู้มีอิทธิพล หรือสั่งการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน ตามข้อสั่งการของรัฐบาล ขณะนี้ พบข้อมูลว่ามีการเปลี่ยนรูปแบบเป็นลักษณะกองทัพมด พักไว้ประเทศเพื่อนบ้านแล้วส่งเข้ามาในไทย หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดตรวจสอบมากยิ่งขึ้น ส่วนการสกัดกั้นนำเข้าเป็นเรื่องการทำงานของแต่ละหน่วยต้องเฝ้าระวัง บูรณาการตรวจค้นห้องเย็นที่แช่เนื้อหมูเถื่อนลักลอบนำเข้ามาก่อนหน้านี้ เชื่อว่าจะสามารถกวาดล้างได้ และประชาชนที่รู้เห็นสามารถแจ้งเบาะแสได้ อย่างไรก็ตาม ทางคดีพบเบาะแสเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ โดยมีข้าราชการเกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวกให้ ซึ่งจะมีความคืบหน้าชัดเจนภายในเดือนนี้.

แชร์ :
ที่มาของเนื้อหา : https://www.thairath.co.th/agriculture/agricultural-policy/2740252