นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลยินดีที่การดำเนินการเปิดตลาดสินค้าปศุสัตว์ โดยเฉพาะโคและสุกรมีชีวิต ไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน อาเซียน และตะวันออกกลาง เห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน ภายใต้นโยบาย ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ให้สินค้าเกษตร ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โคเนื้อ เป็นหนึ่งในสินค้าเกษตรที่สามารถสร้างรายได้ โดยประเทศไทยมีปริมาณโคเนื้อที่สามารถทำการส่งออกได้ไม่ต่ำกว่า 500,000 ตัว/ปี โดยตลาดประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเวียดนามมีความต้องการโคเนื้อจากไทยถึงกว่า 2,000 ตัว/เดือน ซึ่งล่าสุด เป็นครั้งแรกของไทยที่ส่งออกโคเนื้อทางเรือจากเพชรบุรีไปยังเวียดนาม เนื่องจากเห็นถึงศักยภาพในการส่งออก มาตรฐานและกระบวนการเลี้ยงโคเนื้อของไทย ที่ปลอดสารเร่งเนื้อแดง โรคปากและเท้าเปื่อย (FMD) และโรคลัมปีสกิน (LSD) ทั้งนี้ ทำให้เห็นความเข้มแข็งของฟาร์มโคในจังหวัดเพชรบุรี ที่ได้รับรองเป็นฟาร์มปลอดสารเร่งเนื้อแดง จากการผลักดันของกรมปศุสัตว์ โครงการต้นแบบ “เพชรบุรีโมเดล” ซึ่งมีเกษตรกรเข้าร่วมมากกว่า 100 ฟาร์ม และมีโคขุนมากกว่า 8,500 ตัว
“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ ส่งเสริม และเจรจาหาตลาดส่งออกสินค้าปศุสัตว์สู่ต่างประเทศที่มีศักยภาพ โดยได้วางแผนและบริหารจัดการการส่งออกปศุสัตว์อย่างเป็นระบบ และครบวงจร เชื่อมั่นว่าจะช่วยกระจายรายได้ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโค กระบือ และผู้ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ ให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ขณะเดียวกันประเทศคู่ค้าสามารถมั่นใจได้ถึงคุณภาพ มาตรฐานสินค้า และกระบวนการผลิตของไทยที่ดำเนินการอย่างเป็นระบบ ตามขั้นตอนที่เป็นมาตรฐานสากล ด้วยความเข้มงวดต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงาน ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของเกษตรกรไทย” นายชัย กล่าว.