ค้นหา

ประกาศฎกระทรวงบังคับเก็บค่าใช้น้ำ0.373-0.50บาทต่อ ลบ.ม.

สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) 
เข้าชม 487 ครั้ง

สทนช. ประกาศกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าใช้น้ำ กลุ่ม2 ท่องเที่ยว การผลิตพลังงาน ประปา กลุ่ม 3กิจการขนาดใหญ่ ส่วนประชาชน-เกษตรกร ส่วนกลุ่ม 1เกษตรกรประชาชนทั่วไปไม่ต้องจ่าย อัตราน้ำในเขตชลประททาน 0.50 บาท นอกเขต 0.373 บาทต่อ ลบ.ม.

ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่าตามที่คณะรัฐมนตรีได้ เห็นชอบกฎกระทรวงภายใต้ภายใต้พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 จำนวน 5 ฉบับ และได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย กฎกระทรวงที่เสนอโดย สทนช. 3 ฉบับ คือ กฎกระทรวงกำหนดลักษณะการใช้น้ำแต่ละประเภท พ.ศ. 2567 กฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตการใช้น้ำประเภทที่ 2 และใบอนุญาตการใช้น้ำประเภทที่ 3 พ.ศ. 2567 และกฎกระทรวงหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าใช้น้ำ การเรียกเก็บ ลดหย่อน และยกเว้นค่าใช้น้ำ สำหรับการใช้น้ำประเภทที่2 และการใช้น้ำประเภทที่ 3 พ.ศ. 2567

ส่วนอีก 2 ฉบับเสนอโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่กฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าใช้น้ำประเภทที่ 2 และประเภทที่ 3 ที่ไม่ใช่น้ำจากทางน้ำชลประทานและไม่ใช่น้ำบาดาล พ.ศ. 2567 และกฎกระทรวงการอนุญาตการใช้น้ำประเภทที่ 2 และประเภทที่ 3 พ.ศ. 2567

สำหรับสาระสำคัญของกฎกระทรวงทั้ง 5 ฉบับดังกล่าว ได้กำหนดลักษณะการใช้น้ำไว้ 3 ประเภทคือ การใช้น้ำประเภทที่1 เป็นการใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะเพื่อการดำรงชีพ การอุปโภคบริโภคในครัวเรือน การเกษตรหรือการเลี้ยงสัตว์

การอุตสาหกรรมในครัวเรือน การใช้น้ำประเภทที่ 2 เป็นการใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะเพื่อการอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การผลิตพลัง งานไฟฟ้า การประปาและกิจการอื่น และการใช้น้ำประเภทที่ 3  เป็นการใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะเพื่อกิจการขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำปริมาณมาก หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบข้ามลุ่มน้ำ หรือครอบคลุมพื้นที่อย่างกว้างขวาง

ทั้งนี้ การใช้น้ำประเภทที่ 1 ซึ่งเป็นการใช้น้ำของคนส่วนใหญ่ในประเทศ ไม่ต้องขอรับใบอนุญาตและไม่ต้องชำระค่าใช้น้ำ แต่ผู้ใช้น้ำจะต้องให้ข้อมูลแก่ 1 หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อจะได้รวบรวมจัดส่งให้ สทนช. นำไปวิเคราะห์ความต้องการใช้น้ำในภาพรวม เพื่อการวางแผนบริหารจัดการน้ำด้านอุปทานให้สอดคล้องกับอุปสงค์ต่อไป

ดังนั้นเกษตรกรที่ปลูกพืชต่างๆ หรือแม้กระทั่งการทำนาปลูกข้าว การเลี้ยงสัตว์เพื่อยังชีพ จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากกฎกระทรวงดังกล่าว ยกเว้นการใช้น้ำบาดาลตามกฎหมายว่าด้วยน้ำบาดาล ยังคงต้องยื่นคำขอรับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาล และบางกิจการที่ใช้น้ำบาดาลอาจต้องชำระค่าใช้น้ำบาดาลด้วย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะที่ผ่านมาก็มีการชำระค่าใช้น้ำบาดาลอยู่แล้ว

แชร์ :
ที่มาของเนื้อหา : https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1111413