กรมส่งเสริมการเกษตรแนะ “เทพรัตนไพลิน 63” พืชสมุนไพรมากคุณค่า ปลูกง่าย ได้ผลเร็ว
นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า อัญชัน เป็นพืชที่มีประโยชน์ ช่วยบำรุงสายตา ลดน้ำตาลในเลือด เพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย และที่สำคัญคือมีสารสำคัญที่มีสรรพคุณทางการแพทย์ อาทิ สารแอนโทไซยานิน สารแอนโทไซยานิน มีสรรพคุณในด้านกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ได้เป็นอย่างดี คนไทยใช้ประโยชน์จากอัญชันในรูปแบบต่างๆ เช่น ให้เป็นสีผสมอาหาร ใช้ทำเครื่องดื่ม ใช้บำรุงเส้นผม จึงนิยมปลูกเป็นไม้ประจำบ้าน
กรมส่งเสริมการเกษตรขอแนะนำวิธีการขยายพันธุ์อัญชัน สามารถทำได้ 2 วิธี คือ การเพาะเมล็ด โดยนำเมล็ดอัญชันแช่ในน้ำสะอาดทิ้งไว้ 12-24 ชั่วโมง เมื่อครบกำหนดนำเฉพาะเมล็ดที่จมน้ำ ไปบ่มต่อในผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดๆ และเก็บไว้ในภาชนะที่มีฝาปิด นาน 24 ชั่วโมง สังเกตได้ว่าเมล็ดจะมีขนาดใหญ่ขึ้น แล้วนำเมล็ดไปเพาะในภาชนะเพาะ โดยใช้วัสดุปลูกเป็นพีทมอส หรือดินผสม ได้แก่ พีทมอส แกลบดำ และขุยมะพร้าว ในอัตราส่วน 1:1:1 คลุกเคล้าให้เข้ากัน นำใส่ในภาชนะเพาะ เช่น ถาดหลุม ขนาดไม่เกิน 104 หลุม หรือถุงเพาะชำ ขนาด 2.5×6 นิ้ว รดน้ำให้ชุ่ม หยอดเมล็ดลงในถาดหลุมหรือถุงเพาะชำ หลุมละ 2-3 เมล็ด แล้วกลบวัสดุปลูกทับบางๆ รดน้ำอีกครั้ง และควรรดน้ำทุกวันจนกระทั่งกล้ามีใบจริง 2 ใบ จึงย้ายลงแปลงปลูก
วิธีการที่สอง คือ การปักชำ โดยตัดกิ่งอัญชันที่มีลักษณะไม่อ่อนและไม่แก่เกินไป ไม่มีโรคและแมลงรบกวน ความยาวไม่น้อยกว่า 20 เซนติเมตร ให้มีข้อตาไม่น้อยกว่า 4-5 ข้อตา แล้วตัดแต่งใบ โดยลิดใบล่างทิ้ง ส่วนใบด้านบนตัดให้เหลือครึ่งใบ นำกิ่งที่ตัดแต่งแล้วไปแช่ในสารเร่งราก และสารป้องกันกำจัดเชื้อรา นาน 20 นาที ก่อนปักชำนำขึ้นมาผึ่งไว้ให้แห้ง เตรียมวัสดุเพาะชำ ได้แก่ หน้าดิน แกลบดำ ขุยมะพร้าว ปุ๋ยคอก อัตราส่วน 1:1:1:0.5 คลุกเคล้าให้เข้ากัน นำใส่ในถุงเพาะชำสีดำ ขนาด 2.5×6 นิ้ว รดน้ำให้ชุ่ม นำกิ่งที่แช่สารเร่งรากและสารป้องกันกำจัดเชื้อราแล้ว มาปักลงในถุงเพาะชำที่เตรียมไว้ โดยให้ส่วนที่ปักลงในวัสดุปลูกมีข้อตาติดอยู่ 1-2 ข้อตา นำถุงเพาะชำที่ปักชำกิ่งอัญชันแล้วมาใส่ในถุงพลาสติกขนาด 20×30 เซนติเมตร แล้วมัดปากถุงให้แน่น นำไปวางไว้ในที่ร่มรำไร หรือเรือนเพาะชำ หมั่นสำรวจไม่ให้ถุงขาด และเมื่อครบ 1 เดือน จึงเปิดปากถุงเพื่อให้อากาศและให้ต้นอัญชันปรับตัว ประมาณ 5-7 วัน จากนั้นจึงนำต้นอัญชันออกมาดูแลรักษาต่ออีกประมาณ 7-14 วัน จึงนำลงแปลงปลูกได้
สำหรับอัญชันพันธุ์ดีที่กรมส่งเสริมการเกษตรแนะนำ คือ อัญชันพันธุ์ “เทพรัตนไพลิน 63” เป็นพืชที่ถูกวิจัยปรับปรุงพันธุ์โดยกรมวิชาการเกษตร โดยมีลักษณะเด่น คือ ให้ผลผลิตดอกสดต่อไร่สูง เฉลี่ย 2,122 กิโลกรัมต่อไร่ สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็วกว่าพันธุ์ทั่วไปประมาณ 6 วัน และมีปริมาณแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) รวมมากกว่าพันธุ์ปลูกทั่วไป 1.5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักกลีบดอกสด 100 กรัม ด้วยคุณลักษณะและประโยชน์ด้านการแพทย์ ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 6 จังหวัดพิษณุโลก ได้ดำเนินการนำอัญชันพันธุ์ “เทพรัตนไพลิน 63” มาเพาะขยายพันธุ์ให้แก่เกษตรกรที่สนใจสามารถเข้าถึงอัญชัน “เทพรัตนไพลิน 63” โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ จุดบริการพืชพันธุ์ DOAE ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 6 จังหวัดพิษณุโลก ตั้งอยู่เลขที่ 99/1 หมู่ 5 ตำบลงิ้วงาม อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65230 โทรศัพท์ 055-906-220 หรือต้องการสั่งซื้อพันธุ์พืชชนิดอื่นได้ผ่านช่องทาง “DOAE Marketplace” ทางเว็บไซต์ www.doae.go.th/doae_marketplace ทั้งนี้ รายได้จากการจำหน่ายพันธุ์พืช พืชผล ผลิตผล และผลพลอยได้ รวมถึงการใช้จ่ายเงินรายได้จากการจำหน่ายพันธุ์พืช จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวทางการดำเนินงานส่งเสริมด้านการเกษตรตามระเบียบกรมส่งเสริมการเกษตร ว่าด้วยการใช้จ่ายเงินรายได้จากการดำเนินงานส่งเสริมด้านการเกษตร พ.ศ. 2562