กรมหม่อนไหมรับรองพันธุ์ไหม แนะนำพันธุ์น่าน 72 “เหลืองเมืองน่าน” เป็นไหมชนิดฟักออกปีละ 2 ครั้ง เส้นเหลือง รังใหญ่ เปอร์เซ็นต์เปลือกรังสูง 20.96% ให้ผลผลิตสูงในช่วงฤดูหนาวถึง 29 กิโลกรัม เหมาะกับการเลี้ยงในที่อากาศเย็น พร้อมประกาศรับรองพันธุ์ใหม่อีก 15 พันธุ์
วานนี้ (25 มิ.ย. 2567) พันจ่าเอกประเสริฐ มาลัย อธิบดีกรมหม่อนไหม เปิดเผยหลังจากการประชุมคณะกรรมการพิจารณาพันธุ์หม่อนไหม ว่า คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบรับรองไหมพันธุ์ NAN x J108 เป็นไหมพันธุ์แนะนำของกรมหม่อนไหม โดยตั้งชื่อเป็นทางการว่า “น่าน 72” หรือเรียกโดยทั่วไปว่า “เหลืองเมืองน่าน” คุณลักษณะของไหมพันธุ์นี้ คือ เป็นไหมชนิดฟักออกปีละ 2 ครั้ง (Bivoltine) ที่มีรังไหมและเส้นไหมสีเหลือง ขนาดรังไหมค่อนข้างใหญ่ เปอร์เซ็นต์เปลือกรังสูง 20.96% ให้ผลผลิตสูงในช่วงฤดูหนาวถึง 29 กิโลกรัม ส่วนสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการเลี้ยงไหมพันธุ์นี้ควรมีอากาศเย็น จึงเหมาะสมในการเลี้ยงในฤดูหนาว
อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวต่อว่า สำหรับไหมพันธุ์น่าน 72 เป็นไหมพันธุ์ไทยที่เกิดจากกระบวนการปรับปรุงพันธุ์ไหมในโครงการวิจัย เรื่องการปรับปรุงพันธุ์ไหมชนิดฟักออก ปีละ 2 ครั้ง (Bivoltine) ลูกผสมเดี่ยว รังสีเหลือง จากสายพันธุ์น่านให้มีปริมาณและคุณภาพที่ดี เหมาะสมกับการเลี้ยงไหมในเขตภาคเหนือของไทย คุณลักษณะเด่น มีความแข็งแรง รังไหมมีขนาดใหญ่ และรังสีเหลือง มีเปอร์เซ็นต์เปลือกรังสูง และผลผลิตรังไหมต่อแผ่นสูง ส่งผลทำให้เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรมากขึ้น ซึ่งเหมาะที่จะนำไปส่งเสริมให้เกษตรกรนำไปเลี้ยงเป็นไหมอุตสาหกรรมต่อไป
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังได้รับรองพันธุ์ไหม 15 พันธุ์ ได้แก่ จักราช เขียวสกล ไข่งู ซีจีน ท่าหินสอขาว ท่าหินสอเหลือง นางลาย นางลายสระบุรี นางสิ่ว นางเหลือง โนนจำปา โนนน้ำคำ บ้านซ่ง โพธิ์ทอง วนาสวรรค์ เป็นพันธุ์ไหมอนุรักษ์ของกรมหม่อนไหม.
