ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีหารือร่วมกับนายเดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริษัท หัวเว่ยเทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด โดยมี นายถาวร ทันใจ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายพรเทพ ศรีธนาธร ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมเพื่อหารือความร่วมมือด้านการเกษตร พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความร่วมมือด้านการเกษตรของทั้งสองฝ่าย
ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายในการขับเคลื่อนภาคการเกษตรที่มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้มีความอยู่ดีกินดี มีรายได้เพิ่มขึ้น พัฒนาการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยในการลดต้นทุนการผลิตสินค้าเกษตร ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง ขยายตลาดสินค้าเกษตรที่มีอยู่เดิมและเพิ่มตลาดใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศรวมทั้งการบริหารจัดการทรัพยากรทางการเกษตรอย่างยั่งยืน โดยใช้แนวทาง ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ โดยเทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยให้เกษตรกรสามารถขายซื้อสินค้าเกษตรให้กับผู้บริโภคได้โดยตรงโดยที่ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางและสามารถวางแผนการผลิตสินค้าเกษตร
โดยบริษัทหัวเว่ย ได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อพัฒนาพลังงานสะอาด และให้การแปลงพลังงานเป็นระบบดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนพลังงานเพื่ออนาคตและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยได้นำเสนอแนวทางความร่วมของบริษัทฯ ในการพัฒนาภาคการเกษตร พร้อมเสนอแนวทางการสร้างตลาด สร้างงาน เพิ่มรายได้ โดยเทคโนโลยี 1. Digital Power เพื่อช่วยให้เกษตรกรสามารถนำพลังงานทางเลือกไปใช้ลดต้นทุนการผลิตการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อลงทุน 2. Digital Connectivity เพื่อเชื่อมโยงระบบเครือข่ายพื้นที่ห่างไกลกสทช. ศูนย์พิรุณราชรวมถึงการบริการเครือข่ายไร้สายในบางพื้นที่ของหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และ 3. Digital Platform เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำข้อมูลมาเพิ่มศักยภาพในการผลิตและการขายสินค้าเกษตรรวมถึงนำเสนอแผนการดำเนินงานเพื่อตอบสนองนโยบายตลาดนำนวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้ใน 3 กลยุทธ์ 1) Agriculture Learning Hub (สร้างคนสร้างทักษะยกระดับองค์ความรู้ทั้งระบบ) เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เพื่อเกษตรยุคใหม่ 2) Digital Farm & Market (สร้างตลาดสร้างงานเพิ่มช่องทางสร้างรายได้) เพื่อสร้างตลาดและฟาร์มดิจิทัล 3) Ecosystem & Connected All (สร้างการบูรณาการปลูกขายออมเพิ่มความมั่งคั่ง) เพื่อเชื่อมต่อระบบเพิ่มรายได้ลดรายจ่ายให้เกษตรกร
“ดิฉันได้กล่าวขอบคุณบริษัทหัวเว่ย ที่มีความมุ่งมั่นในการนำความรู้ความเชี่ยวชาญมาช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในภาคการเกษตร และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันขับเคลื่อนพัฒนาภาคการเกษตรไทย ในการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม รวมทั้ง ทักษะที่จำเป็นในการทำเกษตรกรรมที่มีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับความสามารถของเกษตรกรไทย ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตและเพิ่มรายได้ ตลอดจนผลักดันความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดต่อไปในอนาคต”ศ.ดร.นฤมลกล่าว