2 ธันวาคม 2567 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมหารือกับผู้แทนชาวไร่อ้อย เกี่ยวกับนโยบายและการบริหารจัดการอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย โดยมี นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย นายสามารถ น้อยวัน รองเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย และคณะผู้บริหาร เข้าร่วม ณ ห้องประชุม อก.1 ชั้น 2 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
นายเอกนัฏ เปิดเผยหลังการประชุมว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมแผนสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยในฤดูผลิตปี 2566/2567 เพื่อส่งเสริมการตัดอ้อยสด ซึ่งช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดจากการเผาอ้อย ทั้งนี้ กระทรวงเน้นย้ำการสร้างความร่วมมือระหว่างเกษตรกรและโรงงานน้ำตาล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโดยนำอ้อยสดคุณภาพดีเข้าสู่กระบวนการ นอกจากนี้ยังส่งเสริมการใช้ใบและยอดอ้อยในเชิงพาณิชย์ เช่น การผลิตพลังงานชีวมวล ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรในระยะยาว เนื่องจากการเผาอ้อยนั้นไม่เพียงแต่สร้างมลพิษทางอากาศ ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง ดังนั้น เราต้องหันมาแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดยการสนับสนุนให้ชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดและนำเศษวัสดุเหลือใช้มาเพิ่มมูลค่า นอกจากจะลดมลพิษแล้ว ยังช่วยเสริมรายได้ให้เกษตรกรอีกทางหนึ่ง โดยให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ร่วมมือกับโรงงานน้ำตาลกำหนดมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในฤดูเปิดหีบปี 2567/2568 รวมถึงจัดสรรเงินชดเชยให้เกษตรกรที่ตัดอ้อยสดเข้าสู่ระบบ เพื่อสร้างความสมดุลในระบบอุตสาหกรรมและยกระดับรายได้ของเกษตรกรอย่างยั่งยืน
“ผมเข้าใจความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวไร่อ้อย การใช้รถตัดอ้อยหรือการจ้างแรงงานคนตัดอ้อยสด ล้วนมีต้นทุนการผลิต เราต้องหันกลับมาช่วยลดต้นทุนการผลิตสำหรับเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดี และได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) หารือกับโรงงานน้ำตาลเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของโรงงาน ก่อนการเปิดหีบฤดูการผลิตปี 2567/2568 ทำให้เกิดรายได้ในระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเพิ่มมากขึ้น และให้ สอน. หาวิธีการชดเชยต้นทุนให้กับชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดส่งโรงงาน และอีกส่วนหนึ่งนำรายได้ที่เกิดจากการจำหน่ายใบอ้อยมาชดเชย” นายเอกนัฏ กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมยังมีแผนระยะยาวในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์จากอ้อย การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ พลาสติกชีวภาพ เคมีชีวภาพ และเวชภัณฑ์ชีวภาพ เป็นต้น เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ให้เกษตรกรและผู้ประกอบการ
“มาตรการทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนดำเนินงานที่เราวางไว้ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง พร้อมทั้งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน เราหวังว่าความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจะทำให้อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยก้าวสู่ความยั่งยืน และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับทุกคน” นายเอกนัฏ กล่าวปิดท้าย