ค้นหา

‘นิวยอร์ก’ เพาะเลี้ยง ‘หอยนางรม’ 1,000 ล้านตัว ป้องกันน้ำกัดเซาะชายฝั่ง

BBC, CBC, Fast Company, The Week
เข้าชม 53 ครั้ง

เป็นเวลานานอย่างน้อย 6,000 ปีแล้ว ที่ “หอยนางรม” เติบโตได้ดีในปากแม่น้ำฮัดสัน ของรัฐนิวยอร์ก แต่ด้วยมลพิษในน้ำ และมนุษย์เก็บหอยไปกินจนทำให้หอยนางรมในบริเวณนี้หายไปเกือบหมด ทำให้ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา นิวยอร์กเพาะพันธุ์ตัวอ่อนหอยนางรม 150 ล้านตัว โดยมีเป้าหมายที่จะแพร่พันธุ์ 1,000 ล้านตัว ในแหล่งน้ำของเมืองภายในปี 2035 เพื่อฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยริมชายฝั่งของเมือง ปรับปรุงคุณภาพน้ำ และให้ความรู้แก่ประชาชน

ใครจะเชื่อว่า แต่เดิมมหานครนิวยอร์กเคยเป็นสถานที่ที่มีหอยนางรมขึ้นชื่อมานับพันปี โดยหอยนางรมเคยเป็นอาหารหลักของชาวเลนาเป ชนพื้นเมืองของรัฐนิวยอร์ก และเมื่อชาวยุโรปได้ลิ้มลองรสชาติของหอยก็เกิดความประทับใจจนกลายเป็นของเด็ดและกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักประจำเมือง

แต่การบริโภคมากเกินไปและการสร้างระบบบำบัดน้ำเสียและทิ้งของเสียลงในน้ำ จากการระบาดของโรคอหิวาตกโรคในปี 1849 ทำให้จำนวนหอยนางรมลดลงอย่างรวดเร็ว หลังจากการระบาดของโรคอหิวาตกโรคไม่นาน ก็พบว่าการกินหอยนางรมอาจทำให้ป่วยเป็นโรคไทฟอยด์ กรมอนามัยได้ปิดแหล่งเพาะพันธุ์หอยนางรมทั้งหมด โดยแหล่งเพาะพันธุ์หอยนางรมแห่งสุดท้ายในนครนิวยอร์กปิดในปี 1927

เมื่อปี 2012 นิวยอร์กเจอกับพายุเฮอริเคนแซนดี้พัดถล่มนิวยอร์กและชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า จะดูแลชุมชนและชายฝั่งได้อย่างไร และคำตอบหนึ่งที่ได้ก็คือ “หอยนางรม” ช่วยแก้ปัญหานี้ได้

การทดลองทางการศึกษาในปี 2003 พีท มาลีโนวสกี อาจารย์และนักเรียนกลุ่มหนึ่งได้เพาะพันธุ์ตัวอ่อนหอยนางรมประมาณ 30,000 ตัว ลงในบริเวณท่าเรือ เมื่อหอยนางรมรวมตัวกันและเติบโตบนพื้นผิวแข็งที่จมอยู่ใต้น้ำ เช่น หินหรือเศษซากจากทะเล จะกลายเป็นแนวหอยนางรม ซึ่งสามารถป้องกันผลกระทบจากคลื่นพายุและการกัดเซาะชายฝั่งได้เพราะช่วงดังกล่าวมีพลังงานคลื่นจะเร่งขึ้นเหนือพื้นแม่น้ำ แต่แนวหอยนางรมจะสร้าง “วิฟเฟิลบอลเอฟเฟกต์” ซึ่งดูดซับโมเมนตัมส่วนใหญ่ไว้ได้

นอกจากนี้ เมื่อหอยนางรมกรองน้ำจะช่วยดูดซับมลพิษ โดยหอยนางรมโตเต็มวัย 1 ตัว จะสามารถกรองน้ำได้ 50 แกลลอนต่อวัน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ สัตว์อย่างกุ้งและหอยทากเติบโตบนเปลือกซึ่งเป็นอาหารของปลา และยังเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติในการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งอีกด้วย หอยนางรมจึงเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้กับระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นและน้ำท่วม

หลังจากนั้น มาลีโนวสกีและนักเรียนของเขาได้ขยายขนาดและสร้างระบบเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำขนาดเล็ก จนสามารถเลี้ยงหอยนางรมได้ 2 ล้านตัว ที่ท่าเทียบเรือแห่งหนึ่ง จากนั้นโครงการนี้ก็กลายเป็นโครงการริเริ่มระดับเมืองในชื่อ “Billion Oyster Project” ที่ปัจจุบันได้จับมือกับสถาบันต่างๆ หลายแห่ง โรงเรียนกว่าร้อยแห่ง และร้านอาหาร 75 แห่ง ช่วยกันรีไซเคิลเปลือกหอยนางรม

ตั้งแต่ปี 2021 นิวยอร์กมีหอยนางรมเพิ่มเป็น 35 ล้านตัวในแหล่งน้ำของนิวยอร์ก และเกิดโครงการริเริ่มหลายแห่งหนึ่งในนั้นคือ โครงการปกป้องชายฝั่งที่ชื่อว่า Living Breakwaters โดยสตูดิโอสถาปัตยกรรมภูมิทัศน์ Scape Landscape Architecture กำลังสร้างแนวหอยนางรมนอกชายฝั่งทางใต้ของเกาะสแตเทนขึ้นมาใหม่

ตามรายงานของ Scape เขื่อนกันคลื่นนี้จะมีความยาว 2,400 ฟุต ซึ่งจะช่วยกันคลื่น ลดการกัดเซาะชายหาด และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยสำหรับหอยนางรม ปลาและสัตว์ทะเลชนิดอื่น ๆ โดยคาดว่าการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นเสร็จสิ้นในเดือนกันยายนปี 2024 และติดตั้งหอยนางรมที่เขื่อนเสร็จภายในปี 2027

พื้นที่บางส่วนตามแนวชายฝั่งของซานดิเอโกก็ได้รับการปรับปรุงดัดแปลงใหม่ โดยเฉพาะส่วนของแอ่งน้ำขัง (Tidepool) ที่อยู่ตามแนวโขดหิน ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ลุค มิลเลอร์ นักชีววิทยาทางทะเลจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐซานดิเอโกกล่าวว่า “เมื่อน้ำลง คุณจะพบสาหร่ายชนิดต่างๆ มากมายและสัตว์ต่างๆ มากมายอาศัยอยู่ ทั้งในแอ่งน้ำขังและตามขอบเหล่านั้นด้วย” 

บราเชียร์ กล่าวว่าชุมชนชายฝั่งอื่น ๆ ในสหรัฐที่เผชิญกับคลื่นความเสียหายและการกัดเซาะอาจใช้กลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกัน โดยในรัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐวอชิงตัน และฟลอริดาได้ดำเนินการดังกล่าวแล้ว แม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่าก็ตาม

นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ซาดิก ข่าน ยังบินลัดฟ้ามาศึกษาโครงการนี้ และมุ่งมั่นที่จะสำรวจบทบาทของหอยนางรมในแม่น้ำ ซึ่งอาจจะนำไปช่วยทำความสะอาดแม่น้ำเทมส์ ซึ่งเดิมทีเคยมีแนวหอยนางรมเคยทอดยาวเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรของปากแม่น้ำเทมส์เช่นกัน 

นอกจากนี้ในบังกลาเทศ ออสเตรเลีย และฮ่องกง กำลังดำเนินการฟื้นฟูหอยนางรมด้วยเช่นกัน โดยแต่ละโครงการมีขนาดและลำดับความสำคัญที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการชะลอการกัดเซาะชายฝั่ง การป้องกันคลื่นพายุ หรือการปรับปรุงคุณภาพน้ำ

แชร์ :
ที่มาของเนื้อหา : https://www.bangkokbiznews.com/environment/1156225