นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567 ร่วมกับ นายวสันต์ จีนหลง นายกสมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์และตัวแทนผู้รวบรวมน้ำนมดิบ โดยมี นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ นายสันทาน สีสา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ นายวินิต อธิสุข รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เข้าร่วม ณ ห้อง 115 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า จากกรณีที่สมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ มีความกังวลว่าจะได้รับผลกระทบจากประกาศคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567 นั้น ขอยืนยันว่า กระทรวงเกษตรฯ ยึดหลักเจตนารมณ์ของโครงการนมโรงเรียน 3 ข้อหลัก คือต้องการให้นักเรียนได้ดื่มนมที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันส่งเสริมการเลี้ยงโคนมของเกษตรกรตลอดจนการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมสามารถขายน้ำนมดิบได้ และผู้ประกอบการสามารถเข้าร่วมโครงการได้อย่างเป็นเสมอภาคและเป็นธรรมทุกภาคส่วน โดยในปี 2568 นี้ ยังยึดหลักเกณฑ์ดังกล่าว และได้กำชับให้คณะกรรมการฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอนให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โปร่งใส และเน้นผลประโยชน์ของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและประเทศชาติ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้เดินหน้าผลักดันช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคมนมมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ขับเคลื่อนโครงการผลิตอาหารหยาบคุณภาพสูง ลดต้นทุนอาหารสัตว์ ช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์รายย่อย บนพื้นที่ของศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ กรมปศุสัตว์ จำนวน 11 แห่ง เนื้อที่ขนาด 5,500 ไร่ รวมทั้งการให้ความรู้การบริหารจัดการฟาร์ม การเฝ้าระวังและควบคุมโรคระบาดสัตว์ เป็นต้น ตลอดจนขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์พัฒนาโคนมและผลิตภัณฑ์นมอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความเข้มแข็งในองค์กรโคนม พัฒนาระบบอุตสาหกรรมนมของประเทศให้ยั่งยืน เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนมของประเทศ มีมาตรฐานปลอดภัยต่อผู้บริโภค และสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าวให้เกิดประสิทธิภาพได้นั้น จำเป็นต้องร่วมมือเพื่อหาทางออกร่วมกัน ทั้งภาครัฐ สหกรณ์ และเอกชน เพื่อไม่ให้กระทบกับทุกฝ่าย