ค้นหา

‘คลัง‘ เร่งเครื่องเศรษฐกิจ ชู 5 เรื่อง ดัน GDP ไทยปี 68 โตได้ถึง 3.5%

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) 
เข้าชม 51 ครั้ง

เศรษฐกิจไทยมีทิศทางที่ทยอยฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยปี 2566 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 1.6% ขณะที่ปี 2567 การส่งออกขยายตัวได้ดีทำให้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวใกล้เคียง 3% 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดจากภาวะการชะลอตัวของภาคการผลิตอุตสาหกรรมทำให้หน่วยงานเศรษฐกิจอย่างสำนักเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2567 ใหม่เป็นขยายตัวได้ประมาณ 2.5% ก่อนที่ในปี 2568 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3% และมีปัจจัยสนับสนุนที่อาจช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ถึง 3.5%

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2568 ยังมีโอกาสขยายตัวได้สูงกว่า 3 % หรืออาจจะขยายตัวได้ถึง 3.5% ซึ่งเป็นสมมุติฐานที่ดีที่สุดที่ตั้งไว้ของเศรษฐกิจไทยปีนี้ โดยจะต้องมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจใน 5 เรื่อง ได้แก่

1.การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2568 ทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะรายจ่ายลงทุน ซึ่งจากข้อมูลในปีที่ผ่านมาการเบิกจ่ายงบประมาณในการลงทุนอยู่ที่ 75% หากสามารถผลักดันการลงทุนการเบิกจ่ายการลงทุนให้เพิ่มขึ้นเป็น 80% หรือเพิ่มขึ้นอีก 5% ก็จะมีเม็ดเงินลงทุนลงสู่ระบบเศรษฐกิจอีก 4.65 หมื่นล้านบาท ช่วยดันจีดีพีเพิ่มขึ้นได้อีก 0.11%

2.การติดตามกระบวนการใช้จ่ายของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หรือการแจกเงิน 10,000 บาท ในเฟสที่ 3 ที่จะมีการเบิกจ่ายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยจากในการติดตามข้อมูลของเฟสที่ 1 พบว่านำไปใช้ในการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ดีระดับหนึ่ง 

แต่ทั้งนี้ ต้องติดตามและหาแนวทางจูงใจให้มีการนำเงินที่รัฐจะแจกในเฟสที่ 3 ให้ไปใช้จ่ายเพื่อสร้างการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่เพื่อเกิดประโยชน์กับระบบเศรษฐกิจมากที่สุด ซึ่งส่วนนี้จะช่วยเพิ่มจีดีพีในปี 2568 ได้อีก 0.1%

3.การเร่งรัดการลงทุนในโครงการบ้านเพื่อคนไทยเพื่อให้เกิดการลงทุนตามแผนงาน ซึ่งในปีนี้จะเห็นโครงการเริ่มก่อสร้าง คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจ 830 ล้านบาท ช่วยผลักดันจีดีพีได้อีก 0.002% ยังไม่นับรวมเชื่อมโยงการผลิตไปข้างหน้า (Forward Linkage) ที่จะเกิดขึ้นเมื่อเริ่มการก่อสร้างในโครงการ

4.การกระตุ้นการท่องเที่ยวในภาพรวมและช่วงปลายปีที่ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 โดยหากเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้ถึง 5 แสนคน จะช่วยเพิ่มจีดีพีในปี 2568 ได้ประมาณ 0.15%

5.การเร่งรัดโครงการการลงทุนของภาคเอกชนหลังได้รับการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนแล้ว โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับ Data Center และ Cloud Region เพื่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนจริง สู่ระบบเศรษฐกิจและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศไทย 

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีโครงการที่รอการลงทุนอยู่แล้วหลายโครงการ เช่น ของGoogle และ Amazon Web Services (AWS) หากเร่งรัดให้เกิดการลงทุนในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 7.5 หมื่นล้านบาท ก็จะช่วยให้จีดีพีไทยในปี 2568 ขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีก 0.19%

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังจะใช้เครื่องมือทางการคลังอย่างเต็มศักยภาพส่วนเครื่องมือที่เป็นนโยบายการเงินนั้น ก็ยังมีการทำงานควบคู่กับไปด้วย โดยขณะนี้กระทรวงการคลัง ธปท.และ สศช. ก็มีการนัดหมายคุยกันเพื่อช่วยกันทำงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจและดูประชาชนอย่างต่อเนื่อง

4 ปัจจัยหนุนเศรษฐกิจปี 68 

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2568  กระทรวงการคลังคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ 3%  (ช่วงคาดการณ์ที่ 2.5-3.5%) โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน ได้แก่ 

1.การบริโภคภาคเอกชนคาดว่าขยายตัวต่อเนื่องที่ 3.3% ต่อปี โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและรายได้เกษตรกรขยายตัวดีต่อเนื่อง 

2.การส่งออกปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัว 4.4% สอดคล้องความต้องการสินค้าของตลาดโลกและเศรษฐกิจคู่ค้าที่ปรับตัวดีขึ้น

3.การท่องเที่ยวคาดว่าขยายตัวต่อเนื่องด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าเพิ่มขึ้นเป็น 38.5 ล้านคน ซึ่งสนับสนุนรายได้จากการท่องเที่ยวและส่งเสริมภาคบริการและภาคการผลิตที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ 1.83 ล้านล้านบาท

4.การลงทุนปี 2568 จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจไทย โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจาก 2 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ การลงทุนภาคเอกชนคาดว่าขยายตัว 2.7% ต่อปี จากการเร่งดำเนินโครงการขนาดใหญ่ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนโดยบีโอไอ ซึ่งมีมูลค่าขอรับการส่งเสริมสูงกว่า 1.14 ล้านล้านบาท ในปี 2567 สูงสุดในรอบ 10 ปี และมีโครงการยื่นขอส่งเสริมกว่า 3,100 โครงการ ซึ่งคาดว่าทยอยลงทุนจริงภายใน 1-4 ปี หลังการอนุมัติโครงการ 

เตรียมความพร้อมเบิกจ่ายงบประมาณ

ส่วนการลงทุนภาครัฐที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 3.4% ต่อปี จากความต่อเนื่องในการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนและการเร่งรัดโครงการสำคัญเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันและกระตุ้นการลงทุนต่อเนื่องในภาคเอกชน 

นอกจากนี้ แรงหนุนจากเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2568 ยังส่งผลให้การบริโภคภาครัฐคาดว่าจะขยายตัวที่ 1.3% ต่อปี ซึ่งการเบิกจ่ายภาครัฐเป็นเรื่องที่พูดคุยกับหน่วยงานราชการและสำนักงบประมาณให้มีการเตรียมพร้อมในการเบิกจ่ายงบประมาณอย่างต่อเนื่อง

สำหรับเสถียรภาพราคาภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ 0.9% ต่อปี เร่งขึ้นจากปีก่อนหน้า ตามอุปสงค์ภายในประเทศที่ขยายตัวดี ขณะที่เสถียรภาพภายนอกประเทศ คาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุล 13 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 2.4% ของจีดีพี สะท้อนถึงศักยภาพที่เข้มแข็งของภาคต่างประเทศและการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว

แชร์ :
ที่มาของเนื้อหา : https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1164575