ค้นหา

ปภ.ช.เอาจริง เกษตรกร ยังดื้อเผาโดนขึ้นแบล็กลิสต์แน่

กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.)
เข้าชม 32 ครั้ง

ปภ.ช. สั่งต้องเอาจริง! หากเกษตรกรดื้อยังเผาต้องติดแบล็กลิสต์ ! กระทรวงเกษตรฯ รับนโยบายต้องใช้ยาแรง เตรียมขึ้นบัญชีดำเกษตรกรไม่หยุดเผา หลังขอความร่วมมือ “ห้ามเผา” เพื่อเราทุกคนแล้วยังเฉย

น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.)  เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ติดตามสถานการณ์ฝุ่นควันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการคุมเข้มสั่งห้ามเผาและการตรวจจับดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รายงานแนวทางและขั้นตอนการแจ้งเตือนและป้องปรามเกษตรกรไม่ให้เผา ควบคู่กับการส่งเสริมวิธีการกำจัดเศษวัสดุทางการเกษตร เช่น ไถกลบตอซัง ใช้จุลินทรีย์และอินทรียวัตถุ โดยในเบื้องต้นได้รับความร่วมมือจากเกษตรกรและเตรียมขึ้นบัญชีเกษตรกรที่ถูกตัดสิทธิ์และไม่ปฏิบัติตามข้อสั่งการของรัฐ ซึ่งจะประกาศในเร็วๆนี้ 

ด้านกรมป่าไม้ รายงานการจัดการไฟในพื้นที่ป่า พบว่า จังหวัดกำแพงเพชรเกิดไฟป่ามากที่สุดและพบจุดความร้อน (hotspots) สะสมในภาคเหนือมากที่สุด ขณะที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมรายงานจำนวนโรงงานรับซื้ออ้อยเผาเข้าหีบแต่ละภาคยังมีมาก ซึ่งช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ของแต่ละปีเป็นช่วงที่เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยจะเร่งเก็บผลผลิต แต่ภาพรวมปีนี้ลดลงจากปีก่อน 

โดยที่ประชุม ปภ.ช. ได้มอบหมายทุกจังหวัด นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ประสานการทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ทำงานเชิงรุก เข้าตรวจสอบและแก้ปัญหาการสะสมของจุดความร้อนที่ยังสูงอยู่โดยเฉพาะที่จังหวัดเพชรบูรณ์และชัยภูมิ

ขณะเดียวกัน กรมควบคุมมลพิษได้เปิดเผยสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 มีแนวโน้มจะบรรเทาลงในช่วงวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ 2568 แต่หลังจากนั้น ค่าฝุ่นจะมีแนวโน้มกลับมาสูงอีกครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง โดยต้องเฝ้าระวังจนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เนื่องจากอากาศที่นิ่งและจมตัว เกิดสภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น ทำให้อัตราการระบายอากาศค่อนข้างต่ำ ร่วมกับลมที่มีความแปรปรวนในช่วงนี้ โดยมีลมทิศใต้และตะวันออกเฉียงใต้พัดแทรกบางเวลา ส่วนลมทางตอนเหนือจะเป็นลมตะวันตก ประกอบกับข้อมูลจุดความร้อนที่ยังพบการเผาในหลายพื้นที่

แชร์ :
ที่มาของเนื้อหา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/93109