คุณสิทธิศักดิ์ โรจน์วิศิษฎ์ เป็นอีกคนที่ชื่นชอบการเลี้ยงงูเสมือนเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่งภายในบ้าน กินและนอนห้องเดียวกัน เพียงแต่แยกที่พักสำหรับงูแต่ละตัวไว้ต่างหากและจากสัตว์เลี้ยงที่เป็นเพียงความชอบ สามารถเพิ่มเติมเป็นรายได้เข้ามายัง คุณสิทธิศักดิ์ ได้ไม่น้อย

จุดเริ่มต้นการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงของ คุณสิทธิศักดิ์ ไม่ได้เริ่มจากงูเป็นชนิดแรก แต่เพราะโรคภูมิแพ้ทำให้สัตว์เลี้ยงที่มีขนถูกตัดออกไป แล้วหันมาเลี้ยงสัตว์เลื้อยคลาน เช่น กิ้งก่า เต่า และงู แทน
ด้วยประสบการณ์การเลี้ยงสัตว์เลื้อยคลานที่ผ่านมา คุณสิทธิศักดิ์ เห็นว่า งูเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่ดูแลง่ายและใช้เวลาน้อยที่สุด คุณสิทธิศักดิ์ ช่วงอายุ 13 ปี เป็นวัยเริ่มต้นของการเลี้ยงงูเป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้าน การเลี้ยงผ่านการลองผิดลองถูก บวกกับการศึกษาข้อมูลผ่านเว็บไซต์เรื่องการเลี้ยงงู งูสายม่านเป็นงูชนิดแรกที่คุณสิทธิศักดิ์ ตัดสินใจซื้อมาเลี้ยง แต่ในท้ายที่สุด Boa Constrictor กลับเป็นงูที่ครองใจและยึดเป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้านมากที่สุด

งูจำนวนกว่า 30 ตัว ในหลายสายพันธุ์ คล้ายเป็นสิ่งสะสมสำหรับ คุณสิทธิศักดิ์ แต่เมื่อเป็นสิ่งมีชีวิตจึงต้องเรียกว่า สัตว์เลี้ยง ซึ่งจำนวนนี้เป็นจำนวนที่คุณสิทธิศักดิ์บอกว่า น้อยลงจากเดิมมากแล้วและนอกเหนือสัตว์เลื้อยคลานอย่างงู ยังมีเต่าญี่ปุ่น เต่าไดมอนด์ แบ็ค เต่าหวาย หนูขวัญ และหนูตะเภาอีกจำนวนหนึ่ง
แต่ งู Boa Constrictor มีจำนวนมากกว่าสัตว์เลื้อยคลานประเภทอื่น “Boa Constrictor เป็นงูที่มีความสวยงาม มีรูปลักษณ์ในลำตัว มีลายและสีสันโดยเฉพาะบริเวณส่วนหางซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มีสีตั้งแต่สีน้ำตาลไหม้จนถึงแดงเลือดนก ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ลักษณะอีกอย่าง คือ การรัดหรือการใช้หางเกาะเกี่ยวแน่นมาก หากเลี้ยงปล่อยตามธรรมชาติและหากินเอง งูชนิดนี้จะใช้วิธีกัดและรัดเหยื่อจนขาดอากาศหายใจตาย แล้วจึงกิน”

แต่สำหรับการให้อาหาร Boa Constrictor สัตว์เลี้ยงของ คุณสิทธิศักดิ์ คือ หนูแรทกับหนูไมซ์ คุณสิทธิศักดิ์ บอกว่า หนูทั้งสองชนิดเป็นสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงเพื่อเพาะให้ออกลูก แล้วนำมาให้งูกิน หนูไมซ์เป็นหนูขนาดเล็ก ขนาดเมื่อโตเต็มที่ประมาณขวดยาคูลท์ ส่วนหนูแรทเป็นหนูขนาดใหญ่ ขนาดเมื่อโตเต็มที่เท่าขวดบรรจุน้ำ ขนาด 600 มิลลิลิตร
การให้อาหารทำเพียงสัปดาห์ละครั้ง ให้ในช่วงสายถึงบ่าย ที่ต้องใช้เวลานานเพราะต้องค่อยๆ ให้ในแต่ละตัว ส่วนปริมาณขึ้นกับขนาดของงูและขนาดของหนู ทุกครั้งของการให้อาหาร คุณสิทธิศักดิ์ จะทำความสะอาดที่พักของงูไปพร้อมกัน

งู Boa Constrictor มีอุปนิสัยเชื่องและไม่ดุ แต่คุณสิทธิศักดิ์ แนะนำสำหรับผู้เลี้ยงรายใหม่ที่สนใจ หากเลี้ยงแล้วไม่ได้นำงูมาเล่นบ่อยๆ อาจทำให้นิสัยของงูก้าวร้าวขึ้น จึงควรเล่นกับงูให้คุ้นเคยตั้งแต่ยังเป็นงูเด็กหรือเริ่มเลี้ยงตั้งแต่ต้น
“การดูแลเอาใจใส่งูเหมือนสัตว์เลี้ยงทั่วไป เจ้าของควรสังเกตงู โดยเฉพาะเมื่องูป่วย จะมีน้ำมูก น้ำลาย ต้องคอยเปิดไฟภายในตู้ที่พักให้มีอุณหภูมิอบอุ่นอยู่เสมอ ยิ่งเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงและเมื่องูตั้งท้องจะป่วยง่าย”
คุณสิทธิศักดิ์ กล่าวว่า หาก งู Boa Constrictor ที่เคยเชื่อง ดุขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล ควรหาสาเหตุให้พบเพื่อแก้ไขที่สาเหตุ โดยสาเหตุที่พบส่วนใหญ่ คือ

1.งูเข้าคราบหรืองูลอกคราบ เป็นสาเหตุที่ทำให้งูไม่สบายตัว อาจก้าวร้าวเฉพาะช่วงนี้ได้
2.งูหิวมาก สาเหตุนี้ทำให้งูตื่นตัวเพื่อหาเหยื่อ และหากมีการเคลื่อนไหวลับๆ ล่อๆ อาจทำให้งูเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเหยื่อ อาจฉกหรือกัดได้
3.สถานที่เลี้ยง ส่วนใหญ่ทำให้พฤติกรรมก้าวร้าว เช่น เปลี่ยนสถานที่เลี้ยงบ่อย หรือสถานที่เลี้ยงเป็นตู้แบบเปิดหน้าและด้านหลังทึบ หรืออยู่ในเงามืด ทำให้งูคิดว่าอยู่ในอาณาเขต จึงแสดงการป้องกันการรุกรานและแสดงอาการขู่หรือกัด ซึ่งแตกต่างกับสถานที่เลี้ยงแบบเปิดฝาด้านบน งูจะตื่นตกใจน้อยกว่า และแสดงอาการดุร้ายน้อยลง รวมทั้งการทำที่ซ่อนภายในสถานที่เลี้ยง จะช่วยลดอาการเครียดของงูได้

และ 4.กรณีแม่งูออกลูกและเฝ้าลูกใหม่ๆ จะมีความผันแปรทางอารมณ์ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้งูดุ
คุณสิทธิศักดิ์ ให้ข้อมูลการผสมพันธุ์ งู Boa Constrictor ว่า งูโตเต็มวัยจะทำให้เกิดลูกงูที่สมบูรณ์ เป็นวัยที่พร้อมผสมพันธุ์ โดยงูชนิดนี้โตเต็มวัยเมื่ออายุประมาณ 4 ปี ในตัวผู้จะโตเต็มวัยก่อนตัวเมียประมาณ 1 ปี ก่อนการผสมพันธุ์ควรให้อาหารและดูแลพ่องูแม่งูให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ และก่อนให้ผสมพันธุ์ควรให้อาหารไม่มากนัก จากนั้นค่อยๆ ปล่อยให้พ่องูและแม่งูอยู่ในที่พักเดียวกัน โดยจับแม่งูใส่ไว้ในที่พักเดียวกับพ่องู เมื่อแม่งูเป็นสัด พ่องูจะเลื้อยเข้าไปจีบ จนกว่าแม่งูจะยอมให้ผสม

“ลักษณะการเกี้ยวพาราสีอาจกินเวลานานหลายวันหรือเป็นสัปดาห์ ส่วนการผสมใช้เวลาหลายวันเช่นกัน ในบางครั้งอาจกินเวลาเป็นเดือนก็มี”
งู Boa Constrictor เป็นงูที่ออกลูกเป็นตัว จึงตั้งท้องนานกว่างูชนิดออกลูกเป็นไข่ ใช้ระยะเวลาตั้งท้องประมาณ 115-120 วัน หลังออกลูกแม่งูจะหวงลูกมาก เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แม่งูแสดงอาการดุร้ายออกมา
คุณสิทธิศักดิ์ บอกว่า แม่งูบางตัวอาจไม่สามารถออกลูกเองได้ จำเป็นที่ผู้เลี้ยงต้องช่วยโดยการทำความสะอาด ตัดสายสะดือ นำไปเลี้ยงไว้ในกล่องที่สะอาด ปลอดเชื้อ คอยฉีดน้ำที่ผิวหนังลูกงู ไม่ให้ผิวหนังแห้งจนเกินไป เมื่อลูกงูอายุ 8-12 วัน จะเข้าคราบครั้งแรก จากนั้นเริ่มให้อาหารมื้อแรกได้ ซึ่งหลังลูกงูเข้าคราบแล้ว ผู้เลี้ยงสามารถขายลูกงูได้ทันที
ความนิยมเลี้ยงงู Boa Constrictor ยังคงมีอยู่ในกลุ่มผู้เลี้ยงจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบสีสัน ลวดลายบนผิวหนังของงู ทำให้ราคาซื้อขายงูชนิดนี้ไม่ตก

“ในแต่ละครั้งของการตั้งท้อง งู Boa Constrictor ออกลูกครั้งละ 40-50 ตัวเป็นอย่างน้อย ราคาขายหลังจากงูเข้าคราบครั้งแรกประมาณ 2,000-3,000 บาท ขึ้นกับลวดลาย สีและความชอบของผู้ซื้อ”
ในรอบปีที่ผ่านมา งู Boa Constrictor ของคุณสิทธิศักดิ์ ให้กำเนิดลูกงูถึง 3 คอก สร้างรายได้ให้สูงถึง 170,000-180,000 บาท จึงนับว่าเป็นรายได้ที่นอกเหนือจากการมีสัตว์เลี้ยงไว้ประดับบ้านได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

สนใจเลี้ยงงูที่ลวดลาย สีสันสวยงามชนิดนี้ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.siamreptile.com