ค้นหา

ฮาลาล มาตรฐานสำคัญเพื่อการส่งออก จากหลักศาสนา สู่โอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศไทย

ฝ่ายกิจการฮาลาลของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย
เข้าชม 154 ครั้ง

หากพูดถึงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร มีบทบาทสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้า ช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพ ความปลอดภัยและมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นับเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดและการแข่งขัน รวมถึงการเพิ่มมูลค่าสินค้าและการส่งออก

โดยมาตรฐานที่ควรมีตามประเภทสินค้า ได้แก่

ในกลุ่มพืช ผัก ผลไม้ : GAP, Q Mark, Organic, GLOBALG.A.P.

ข้าว : GAP, Organic, Q Mark

เนื้อสัตว์ ไข่ นม : GAP, Halal, Organic, GLOBALG.A.P

อาหารแปรรูป : GMP, HACCP, Halal

สินค้าเกษตรเพื่อส่งออก : GLOBALG.A.P., HACCP, Halal

ในครั้งนี้จะพูดในเรื่องของ “มาตรฐานฮาลาล” ว่ามีความสำคัญอย่างไรกับสินค้าเกษตรบ้าง รวมถึงแนะขั้นตอนการขอรับรองมาตรฐานฮาลาลสำหรับเกษตรกร

อาหารฮาลาล (Halal Food) คืออะไร
“อาหารฮาลาล (Halal Food) หมายถึง อาหารหรือผลิตภัณฑ์อาหารซึ่งอนุมัติตามบัญญัติศาสนาอิสลามให้มุสลิมบริโภคหรือใช้ประโยชน์ได้”

“ฮาลาล” เป็นคำมาจากภาษาอารบิก หมายความว่า การผลิต การให้บริการหรือการจำหน่ายใดๆ ที่ไม่ขัดต่อบัญญัติของศาสนา ดังนั้น เราจึงอาจกล่าวได้ว่า “อาหารฮาลาล” คือ อาหารที่ได้ผ่านกรรมวิธีในการทำ ผสม ปรุง ประกอบหรือแปรสภาพ ตามศาสนบัญญัตินั่นเอง เป็นการรับประกันว่า ชาวมุสลิมโดยทั่วไปสามารถบริโภคอาหารหรืออุปโภคสินค้าหรือบริการต่างๆ ได้โดยสนิทใจ เราสามารถสังเกตผลิตภัณฑ์ว่าเป็น “ฮาลาล” หรือไม่นั้น ได้จากการประทับตรา “ฮาลาล” ที่ข้างบรรจุภัณฑ์นั้นเป็นสำคัญ

“เครื่องหมายฮาลาล” คืออะไร

“เครื่องหมายฮาลาล” คือ เครื่องหมายที่คณะกรรมการฝ่ายกิจการฮาลาลของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยหรือคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดต่างๆ ได้อนุญาตให้ผู้ประกอบการทำการประทับหรือแสดงลงบนฉลากหรือผลิตภัณฑ์หรือกิจการใดๆ โดยใช้สัญลักษณ์ที่เรียกว่า “ฮาลาล” ซึ่งเขียนเป็นภาษาอาหรับภายในกรอบสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน หลังกรอบเป็นลายเส้นแนวตั้ง ใต้กรอบภายในเส้นขนานมีคำว่า “สนง.คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย” โดยเครื่องหมายดังกล่าวนี้ จะออกให้กับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ฮาลาลและหรือเนื้อสัตว์ฮาลาลที่นำเข้าจากต่างประเทศ เป็นต้น

มาตรฐานอาหารฮาลาล
ปัจจุบันในตลาดโลกมีผู้บริโภคที่เป็นมุสลิมอยู่ประมาณ 2,000 ล้านคน การค้าขายจำเป็นต้องทำทุกวิถีทางที่จะเข้าไปมีส่วนแบ่งในตลาดอาหารจากประเทศที่มีชาวมุสลิมให้มากขึ้น ประเทศไทยในฐานะที่เป็นประเทศที่ผลิตอาหารที่สำคัญของโลก ผู้ผลิตจึงจำเป็นต้องให้ความสนใจในเครื่องหมายนี้อย่างจริงจัง ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเรียนรู้และอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจอย่างถูกต้องเพื่อเตรียมความพร้อมของการผลิต สร้างฐานที่แข็งแกร่งให้กับประเทศต่อไป

ความสำคัญและความหมายของอาหารฮาลาล
มุสลิมมีความศรัทธาว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ นบีมุฮัมมัดเป็นผู้สื่อ (รอซูล) ของอัลลอฮฺ” และมุสลิมมีความเชื่ออย่างมั่นใจว่า อัลลอฮฺ คือ ผู้สร้างมนุษย์และสรรพสิ่งในจักรวาล ดังนั้น คำบัญชาของอัลลอฮฺ (อัล-กุรอาน) คำสอนและแบบอย่างของนบีมุฮัมมัด (ซุนนะห์) จึงเป็นเรื่องที่มุสลิมจะต้องปฏิบัติตามด้วยความจริงใจและจริงจัง กล่าวคือ ปฏิบัติในสิ่งที่อนุมัติ (ฮาลาล) และไม่ปฏิบัติในสิ่งที่เป็นข้อห้าม (ฮารอม) ด้วยความเต็มใจและยินดี

ฮาลาล-ฮารอมในอิสลามจึงมิได้หมายความเพียงการบริโภคอาหารเท่านั้น แต่ครอบคลุมถึงวิถีการดำเนินชีวิตในทุกด้าน เพราะอิสลามคือ ระบอบแห่งการดำเนินชีวิตของมนุษย์

อาหารฮาลาล (Halal Food) จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมุสลิมในการบริโภค ส่วนผู้ที่มิใช่มุสลิมหากบริโภคอาหารฮาลาลก็จะได้ประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นเดียวกัน เพราะอาหารฮาลาลจะต้องมีกระบวนการผลิตที่ถูกต้องตามข้อบัญญัติแห่งศาสนาอิสลาม ปราศจากสิ่งต้องห้าม (ฮารอม) และมีคุณค่าทางอาหาร (ตอยยิบ)

หน้าที่ของผู้เชือดสัตว์ตามศาสนบัญญัติเพื่อให้ได้เนื้อสัตว์ที่ฮาลาล มีดังนี้
– ต้องนับถือศาสนาอิสลาม
– สัตว์ที่จะเชือดนั้น ต้องเป็นสัตว์ที่รับประทานได้ตามหลักศาสนาอิสลาม
– ต้องไม่ปะปนสัตว์ที่จะเชือดกับสัตว์ต้องห้ามในระหว่างขนส่ง
– ต้องไม่ทารุณสัตว์ก่อนการเชือด ตลอดจนอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชือดต้องมีความคม
– ให้ผู้เชือดกล่าวพระนามของพระผู้เป็นเจ้า ขณะเริ่มทำการเชือด โดยต้องเชือดในคราวเดียวกันให้แล้วเสร็จ โดยไม่ทรมานสัตว์
– ต้องเชือดให้หลอดลม หลอดอาหารและเส้นเลือดข้างลำคอของสัตว์ที่ถูกเชือดขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง โดยสัตว์จะต้องตายเพราะการเชือดเท่านั้น สัตว์นั้นต้องตายสนิทเองก่อน จึงจะนำไปดำเนินการอย่างอื่นต่อได้

ผู้ประกอบการ หรือผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ฮาลาล มีหน้าที่ดังต่อไปนี้
1. รักษาอุปกรณ์ในการผลิตผลิตภัณฑ์ฮาลาลให้สะอาดถูกต้องตามศาสนบัญญัติ ตลอดจนไม่ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวร่วมกับของต้องห้ามตามศาสนบัญญัติ
2. วัตถุดิบหลักในการผลิต ตลอดจนเครื่องปรุงอื่นๆ ต้องระบุแหล่งที่มาอันน่าเชื่อถือได้ว่า “ฮาลาล” โดยไม่แปดเปื้อนกับสิ่งต้องห้าม
3. วัตถุดิบที่ได้จากสัตว์ต่างๆ นั้น ต้องเป็นสัตว์ที่ศาสนาอิสลามอนุมัติและหรือได้เชือดตามศาสนบัญญัติ
4. เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมการผลิตหรือปรุงผลิตภัณฑ์นั้นๆ ต้องเป็นมุสลิม
5. ในระหว่างการขนย้าย ขนส่งหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฮาลาลนั้น ต้องไม่ปะปนผลิตภัณฑ์ฮาลาลกับสิ่งต้องห้ามตามศาสนบัญญัติ

ข้อดีของมาตรฐานฮาลาล (Halal Certification)
1. เข้าถึงตลาดมุสลิมทั่วโลก มาตรฐานฮาลาลเป็นกุญแจสำคัญในการส่งออกสินค้าไปยังประเทศที่มีประชากรมุสลิมจำนวนมาก เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ตะวันออกกลาง ปากีสถานและแอฟริกาเหนือ
2. เพิ่มความน่าเชื่อถือของสินค้า สินค้าฮาลาลไม่ได้จำกัดแค่ผู้บริโภคชาวมุสลิมเท่านั้น แต่ยังสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทั่วไป เนื่องจากผ่านการตรวจสอบวัตถุดิบ กระบวนการผลิตและความสะอาดอย่างเข้มงวด
3. มาตรฐานความสะอาดและปลอดภัยสูง การรับรองฮาลาลกำหนดให้สินค้าปราศจากสิ่งเจือปนที่ต้องห้าม เช่น แอลกอฮอล์ เลือด สารเคมีอันตรายและต้องผ่านกระบวนการที่ถูกสุขลักษณะ
4. เพิ่มโอกาสทางการตลาดและยอดขาย สินค้าที่ได้รับรองฮาลาลสามารถวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านค้าฮาลาลและซูเปอร์มาร์เก็ตเฉพาะทางในหลายประเทศ
5. สามารถใช้เป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพ (Quality Certification) นอกจากแสดงว่าอาหารสามารถบริโภคได้ตามหลักศาสนาอิสลามแล้ว ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้า
6. เพิ่มความสามารถในการแข่งขันระดับสากล หลายประเทศกำหนดให้สินค้านำเข้าต้องมีตราฮาลาล เช่น ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาเลเซีย ทำให้สินค้าฮาลาลได้เปรียบในตลาดโลก
7. ช่วยสร้างความไว้วางใจจากผู้บริโภค มาตรฐานฮาลาลช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าอาหารหรือผลิตภัณฑ์นั้น ปลอดภัย ถูกต้องตามหลักศาสนาและผ่านการตรวจสอบอย่างเคร่งครัด

ขั้นตอนการขอรับรองมาตรฐานฮาลาลสำหรับเกษตรกร
หากเกษตรกรต้องการให้สินค้าของตนเองได้รับรอง มาตรฐานฮาลาล (Halal Certification) เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดและความน่าเชื่อถือ ต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. ตรวจสอบว่าสินค้าเข้าข่ายต้องได้รับรองฮาลาลหรือไม่
สินค้าเกษตรที่ควรมีฮาลาล ได้แก่

– เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ (ไก่ วัว แพะ ปลา กุ้ง ฯลฯ)

– นม ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนม

– พืช ผัก ผลไม้แปรรูป (เช่น น้ำผลไม้ แยม ขนม ฯลฯ)

– ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ที่ต้องไม่มีส่วนผสมต้องห้าม (เช่น แอลกอฮอล์ เลือด สารสกัดจากสัตว์ต้องห้าม)

2. ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นไปตามหลักฮาลาล
การเลี้ยงและการผลิตต้องปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลาม เช่น

– หากเป็นปศุสัตว์ ต้องเลี้ยงสัตว์ด้วยอาหารที่ไม่มีสารต้องห้าม

– หากเป็นการแปรรูปอาหาร ต้องไม่มีการปนเปื้อนจากวัตถุดิบต้องห้าม เช่น ไขมันหมู แอลกอฮอล์ เลือด

– เครื่องมือและอุปกรณ์ ต้องสะอาดและไม่มีการปนเปื้อนจากสิ่งต้องห้าม

3. ยื่นคำขอรับรองฮาลาลกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย หรือคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด

เอกสารที่ต้องเตรียม

– ใบจดทะเบียนฟาร์ม/กิจการเกษตร

– รายละเอียดวัตถุดิบและกระบวนการผลิต

– แหล่งที่มาของวัตถุดิบ (เช่น อาหารสัตว์ที่ใช้)

– รายละเอียดสถานที่เลี้ยงสัตว์ หรือโรงงานแปรรูป

4. ตรวจสอบและประเมินสถานที่ผลิต
– เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการอิสลาม จะเข้าตรวจสอบว่า วัตถุดิบ กระบวนการผลิตและความสะอาด เป็นไปตามหลักฮาลาลหรือไม่

– หากเป็นฟาร์มปศุสัตว์ จะตรวจสอบแหล่งอาหาร น้ำดื่ม และวิธีการเลี้ยง

5. ออกใบรับรองฮาลาล
– หากผ่านการตรวจสอบจะได้รับใบรับรองฮาลาล สามารถใช้สัญลักษณ์ ตราฮาลาล บนผลิตภัณฑ์

– ใบรับรองมีอายุ 1-2 ปี ต้องต่ออายุเมื่อครบกำหนด

6. ควบคุมมาตรฐานและต่ออายุใบรับรอง
– ต้องรักษามาตรฐานให้เป็นไปตามหลักฮาลาลตลอดเวลา

– มีการตรวจสอบซ้ำเป็นระยะจากคณะกรรมการฮาลาล

การได้รับรองฮาลาลช่วยให้สินค้าเกษตรและอาหารเข้าถึงตลาดใหม่ เพิ่มความน่าเชื่อถือ ยกระดับคุณภาพและสร้างโอกาสทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีประชากรมุสลิมจำนวนมาก

ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ

อ่านขั้นตอนรับรองฮาลาลเพิ่มเติม : https://www.acfs.go.th/halal/halal_cert.php

แชร์ :
ที่มาของเนื้อหา : https://www.technologychaoban.com/agricultural-technology/article_302143