เวลา 20.00 น. วันนี้ (18 กุมภาพันธ์ 2568) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ลงในโซเชียมีเดียผ่าน X (ทวิตเตอร์) Ing Shin โดยเผยแพร่อินโฟกราฟฟิกเกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) จังหวัดสงขลา ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินว่า ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พิจารณาลดดอกเบี้ย เพื่อลดภาระให้กับประชาชน
รวมทั้งขอให้ธนาคารพาณิชย์พิจารณาเรื่องการปล่อยสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจและประชาชนมากขึ้นเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการพิจารณาอัตราลดดอกเบี้ยนโยบายนั้น คณะกรรมการนโยยายการเงิน (กนง.) มีกำหนดการประชุมนัดแรกของปี 2568 ในวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 นี้
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ได้แถลงภายหลังการประชุม ครม.สัญจรว่า ได้มอบหมายให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ดูแลมาตรการทางการคลัง ไปประสานการทำงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างใกล้ชิด
ขณะที่กรณีสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประเมินแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2568 ที่ว่าจะขยายตัวประมาณ 2.8 % ต่างจากเป้าหมายของรัฐบาลตั้งเป้าไว้ 3% และพยายามดันให้ไป 3.5% นั้น นายกฯ มั่นใจว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ โดยรัฐบาลจะขอความร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์และธปท. ที่จะทำงานและแก้ปัญหาไปด้วยกัน
นายกฯ เห็นว่า ตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสสี่ของปี 2567เติบโตขึ้นเกือบทุกมิติ แต่ภาคลงทุนของเอกชนหดตัว ปัจจัยที่สำคัญ เช่น ธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีสัดส่วน 75% ของประเทศ ได้รับการปล่อยสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์น้อย จะเห็นได้ว่าเป็นเวลานับ 10 ปี ที่การพัฒนาธุรกิจต่าง ๆ ของภาคเอกชนลดน้อยลง บางอุตสาหกรรมที่เก่าไปแล้ว ไม่ได้รับเงินสินเชื่อ ดังนั้น รัฐบาลพยายามทำทุกเรื่องเพื่อสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจและกระตุ้นให้ภาคเอกชนมีการลงทุนเพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ส่วนเรื่องการปล่อยสินเชื่อให้ภาคธุรกิจ ทางรัฐบาลต้องคุยกับ ธปท. เพื่อร่วมมือกัน
นายกฯ บอกอีกว่า รัฐบาลพยายามหาทางกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งในเมืองหลักและเมืองรอง ขณะที่ภาคเอกชนเองต้องดูด้วยว่าจะลงทุนเพิ่มเติมได้อย่างไรบ้าง และจากที่ได้เดินทางไปต่างประเทศ รัฐบาลก็พยายามที่จะดึงดูดให้มาลงทุนในประเทศไทย