นายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ขณะนี้จำนวนขอรับบริการฝนหลวงได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ก่อน (30 มิถุนายน 2565) ที่จำนวน 350 แห่ง และจากข้อมูลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 มีจำนวน 390 แห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจำนวนขอรับบริการฝนหลวงมากที่สุด คือ จำนวน 254 แห่ง เนื่องจากหลายพื้นที่ได้เริ่มทำการเกษตรแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกข้าวที่ต้องการใช้น้ำเพื่อหล่อเลี้ยงผลผลิตให้เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ ในส่วนภูมิภาคอื่นก็เช่นกัน หลายพื้นที่ต้องการน้ำเพื่อทำการเกษตร โดยในภาคเหนือมีจำนวน 74 แห่ง ภาคกลาง จำนวน 33 แห่ง ภาคตะวันออก จำนวน 28 แห่ง ภาคใต้ จำนวน 1 แห่ง ซึ่งขณะนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ตั้งหน่วยปฏิบัติการทั่วประเทศ จำนวน 10 หน่วย เพื่อปฏิบัติการบรรเทาปัญหาภัยแล้งจากการเกิดฝนทิ้งช่วงและช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่กำลังอยู่ในช่วงเพาะปลูก และขอย้ำกับพี่น้องประชาชนว่าการปฏิบัติการฝนหลวงนั้นได้มีการตรวจสอบสภาพอากาศในพื้นที่เป้าหมายทุกวัน มีการสำรวจพื้นที่การเกษตร ทั่วทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง และมีความพร้อมให้การช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ยังคงต้องการน้ำเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการเกษตร หากพื้นที่ใดมีน้ำที่เพียงพอแล้วจะมีการหลีกเลี่ยงพื้นที่ดังกล่าว เพื่อไม่ให้เป็นการเพิ่มปริมาณน้ำ โดยไม่จำเป็น
สำหรับผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ (6 กรกฎาคม 2565) มีการปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 5 หน่วยฯ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ขาดแคลนน้ำบางส่วนในจังหวัดกำแพงเพชร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี เลย หนองบัวลำภู สกลนคร อุดรธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด และได้เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้พื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนน้ำอูน อ่างเก็บน้ำห้วยคำบากน้อย อ่างเก็บน้ำห้วยทรายสว่าง และอ่างเก็บน้ำหนองบ่อ
นายสำเริง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงนี้จากสภาพอากาศจะมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่บริเวณเชิงเขาระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลากได้ ทั้งนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศร่วมบริหารจัดการแหล่งน้ำของตนเอง ให้เพียงพอต่อการเกษตร อุปโภค บริโภค เพื่อรองรับกับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และพี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account TikTok : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100