ค้นหา

2 ถั่วกำลังโตไปยันติดฝัก ระวังหนอน+โรคโคนเน่าขาว

ไทยรัฐออนไลน์
เข้าชม 732 ครั้ง

ระยะนี้ถั่วเหลืองอยู่ในช่วงลำต้นกำลังเจริญเติบโต กรมวิชาการเกษตร เตือนเกษตรกรให้เฝ้าระวังการทำลายของหนอนกระทู้ผัก ที่มักจะเข้าทำลายลำต้นและใบไปจนถึงระยะออกดอกและติดฝัก

โดยหนอนที่ฟักออกมาจากไข่ใหม่ๆ จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม แทะผิวใบด้านล่าง ทำให้เหลือแต่เส้นใบ เมื่อผิวใบแห้งจะมองเห็นเป็นสีขาว เมื่อหนอนโตขึ้นจะแยกกลุ่มออกไปกัดกินใบทั่วทั้งแปลง จะเริ่มกัดกินจากขอบใบเข้าไป

หากพบการระบาด นายศรุต สุทธิอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร แนะนำให้พ่น เชื้อไวรัสของหนอนกระทู้ผัก อัตรา 50 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือพ่นสารฆ่าแมลง แลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน 2.5% EC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ไตรอะโซฟอส 40% EC อัตรา 40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ คลอร์ฟลูอาซูรอน 5% EC อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นเมื่อใบถูกทำลาย 30% ในระยะก่อนออกดอก 1-2 ครั้ง

นอกจากนี้ ยังต้องเฝ้าระวัง หนอนม้วนใบ เข้าทำลายด้วย โดยหนอนม้วนใบที่ฟักออกจากไข่ใหม่ๆจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ชักใยบางๆคลุมตัวไว้ แล้วกัดกินผิวใบ เมื่อหนอนโตขึ้นจึงกระจายกันออกไปทั่วทั้งแปลง สร้างใยยึดใบพืชจากขอบใบของใบเดียวเข้าหากันหรือยึดใบมากกว่า 2 ใบเข้าหากันแล้วอาศัยกัดกินอยู่ในห่อใบนั้นจนหมดแล้วเคลื่อนย้ายไปทำลายใบอื่นต่อไป หากพบการระบาดให้พ่นสารฆ่าแมลง แลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน 2.5% EC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ไตรอะโซฟอส 40% EC อัตรา 40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นเมื่อใบถูกทำลาย 30% ก่อนออกดอก

“สำหรับถั่วลิสงอยู่ในช่วงระยะออกดอกและติดฝัก ให้เฝ้าระวัง โรคลำต้นเน่า หรือ โคนเน่าขาว ที่จะแสดงอาการเหี่ยวและยุบตัวเป็นหย่อมๆในแปลงปลูก บริเวณโคนต้นเหนือดินพบแผลสีน้ำตาลและมีเส้นใยของเชื้อราสาเหตุโรคสีขาวลักษณะหยาบ ต่อมาเส้นใยของเชื้อราจะรวมตัวเป็นเม็ดเล็กๆสีขาว แล้วเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำคล้ายเมล็ดผักกาด ต่อมาต้นจะแห้งและตาย โรคนี้พบได้ทุกระยะการเจริญเติบโตของถั่วลิสง แต่มักพบระบาดในระยะถั่วลิสงติดฝักถึงเก็บเกี่ยว”

ส่วนการป้องกันกำจัดโรค ผอ.สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช แนะให้เกษตรกรเตรียมแปลงปลูกโดยไถพลิกดินตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อสาเหตุโรคที่อยู่ในดิน เนื่องจากเชื้อสามารถมีชีวิตอยู่ในดินได้นาน ด้วยการใส่ปูนขาวหรือโดโลไมท์ก่อนปลูกเพื่อปรับสภาพดินในแปลงปลูกควรมีการระบายน้ำที่ดี จัดระยะปลูกให้เหมาะสมเพื่อให้โคนต้นโปร่ง แสงแดดส่องถึง และหมั่นตรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ หากพบต้นเป็นโรคให้ถอนต้นและขุดดินบริเวณที่พบนำไปทำลายนอกแปลงปลูก

แล้วรดดินในหลุมและบริเวณใกล้เคียงด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช คาร์บอกซิน 75% WP อัตรา 15 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ โทลโคลฟอส-เมทิล 50% WP อัตรา 20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ อีไตรไดอะโซล 24% EC อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ อีไตรไดอะโซล + ควินโตซีน 6% + 24% EC อัตรา 30-40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร…รดสารทุก 5 วัน อย่างน้อย 2 ครั้ง

และหลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตควรทำลายซากถั่วลิสงโดยการไถกลบให้ลึกเพื่อตัดวงจรของเชื้อสาเหตุโรค รวมทั้งควรทำความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการเกษตร เช่น จอบ เสียม ทุกครั้งหลังใช้กับต้นที่เป็นโรค

ส่วนในแปลงที่พบการระบาดของโรครุนแรง ควรหันไปปลูกพืชหมุนเวียนชนิดอื่นแทน เช่น ข้าวโพด เป็นต้น.

แชร์ :
ที่มาของเนื้อหา : https://www.thairath.co.th/news/local/2484671