ลำปาง – ฝนชุกมะนาวออกล้นสวน โรงงานซื้อจำกัด ราคากลางร่วงเหลือแค่กิโลฯ ละ 2-3 บาท ไม่เว้น “ตาฮิติ” ผลใหญ่หน้าแล้งทุกปีเคยขายได้สูงสุดกิโลฯ ละ 25 บาท ปีนี้หน้าสวน 5-6 บาทยังขายไม่ได้ ต้องปล่อยทิ้งให้เน่ากันระนาว
ขณะนี้เกษตรกรชาวสวนมะนาวทุกพื้นที่กำลังประสบปัญหาผลผลิตล้น ราคาตกต่ำอย่างหนัก จนต้องปล่อยเน่าทิ้งคาต้นคาสวน รวมถึงมะนาวตาฮิติ ที่หน้าแล้งทุกปีเคยขายได้ถึงกิโลกรัมละ 22-25 บาท ช่วงเก็บเกี่ยวราคาไม่เคยลดลงต่ำกว่ากิโลฯ ละ 10-12 บาท แต่ปีนี้ราคากลางกลับร่วงลงเหลือ 2-3 บาทเท่านั้น
นายอเนก ประสม เจ้าของไร่กาญจนา ประธานกลุ่มวิสาหกิจผู้ปลูกมะนาวบ้านแจ้คอน ม.2 กล่าวว่า ในพื้นที่บ้านแจ้คอน ม.2 มีพื้นที่ปลูกกว่า 400 ไร่ 150 ราย เดิมเคยส่งผลผลิตให้กับบริษัทในต่างจังหวัดแบบไม่มีปัญหา แต่ปีนี้ฝนชุกต่อเนื่องแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศมีผลผลิตเพิ่มเหมือนกันทำให้บริษัทไม่มีโควตารับเพิ่ม หรือบางแห่งรับเพิ่มเพียงเล็กน้อย ทำให้มะนาวค้างในสวนจำนวนมาก
ซึ่งแม้ชาวสวนจะเก็บผลผลิตเปิดจำหน่ายหน้าสวนกิโลกรัมละแค่ 5-6 บาท ก็ขายได้น้อยมาก ทำให้มะนาวเน่า เกษตรกรต้องนำมาทิ้ง ตนจึงได้ประสานขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานราชการ รวมถึง อบจ.ลำปาง ได้จัดสรรงบประมาณมารับซื้อเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านในราคาคละกิโลฯ ละ 3 บาท รวม 40 ตัน เฉพาะของกลุ่มตนมีการรับซื้อ 20 ตัน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ก็ยังมีมะนาวที่กำลังโต พร้อมออกจำหน่ายอีกจำนวนมาก หากผู้ประกอบการที่สนใจอยากได้มะนาวนำไปแปรรูปหรือทำผลิตภัณฑ์อื่นๆ สามารถติดต่อซื้อมะนาวไร่กาญจนา ซึ่งเป็นมะนาวพันธุ์ตาฮิติ ผลใหญ่ น้ำมาก ไร้เมล็ด และมีรสเปรี้ยว ผลผลิตได้รับการรับรอง GAP จากกรมวิชาการเกษตรเรียบร้อยแล้ว
ด้านนายประสิทธิ์ ประสม กำนันตำบลทุ่งผึ้ง กล่าวว่า ต.ทุ่งผึ้ง อ.แจ้ห่ม ถือว่าเป็นแหล่งผลิตมะนาวใหญ่ที่สุดของลำปาง ปีนี้ฝนดีทำให้ผลผลิตออกมากทำให้เกษตรกรเดือดร้อนเรื่องการจำหน่ายและราคา ซึ่ง อบจ.ลำปางได้เข้ามาช่วยพยุงราคาและรับซื้อบางส่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร แต่เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว ทางกลุ่มฯ ได้มีการพูดคุยกันว่าจะของบประมาณมาทำโรงเรือนแปรรูปมะนาว เป็นการเพิ่มมูลค่าของมะนาวได้ในอนาคต
ขณะที่นายประชาเวช เกษอินทร์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตรอำเภอแจ้ห่ม ได้ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้เฉพาะอำเภอแจ้ห่มมีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนปลูกมะนาวประมาณ 1,200 ไร่ 85-90% ปลูกในตำบลทุ่งผึ้ง ช่วงเก็บเกี่ยว พ.ค.-พ.ย. จะมีผลผลิตประมาณ 1,000 ตัน จากปีที่แล้วที่ได้ผลผลิตห้วงเดียวกัน ประมาณ 500 ตัน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้เข้ามาช่วยสนับสนุนและให้ความรู้แก่เกษตรกรเพื่อให้ผลผลิตออกนอกฤดูเพิ่มขึ้น เพื่อลดปัญหามะนาวล้นตลาด