ค้นหา

กรมวิชาการเกษตร ส่งต่อเทคโนฯผลิตพืชโรงเรือน ปลูกได้ทั้งปี-สร้างรายได้ดีเกษตรกร

ทีมประชาสัมพันธ์ กรมวิชาการเกษตร
เข้าชม 693 ครั้ง

    สวพ.3 ขอนแก่น – ดร.นฤทัย วรสถิตย์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 (สวพ.3) จังหวัดขอนแก่น กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนเกษตรกรไม่สามารถปลูกพืชผักบางชนิดได้ เพราะมีปัญหาเรื่องโรคเน่าและแมลงศัตรูพืชระบาด ทีมนักวิจัย สวพ.3 จึงได้จัดทำ โครงการวิจัยการทดสอบและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตพืชในระบบโรงเรือนพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เนื่องจากการปลูกผักในโรงเรือนจะทำให้เกษตรกรสามารถผลิตได้ทั้งปี ซึ่งดำเนินการวิจัยและทดสอบตั้งแต่ปี 2562 และจะเสร็จสิ้นเดือนธันวาคม 2564 ภายใต้โจทย์ในการวิจัยว่า ต้องเป็นพืชผักที่มีมูลค่า ตลาดต้องการสูง และเป็นพืชผักชนิดที่ปลูกอยู่แล้ว มีศัตรูพืชเข้าทำลายค่อนข้างมากทำให้ต้องใช้สารเคมีป้องกันกำจัดในปริมาณมาก 

    โดยผลการวิจัยและทดสอบทำให้ได้ต้นแบบโรงเรือนผลิตพืชผักที่เหมาะสมกับพื้นที่ อัตราการให้ปุ๋ยทางระบบน้ำ ต่อการปลูกผัก 9 ชนิด ได้แก่ พริกขี้หนูผลใหญ่ พริกหยวก กะหล่ำปลี ผักชี มะเขือเทศเชอรี่ ผักกาดหอม แตงกวาญี่ปุ่น คะน้าฮ่องกง และแตงโมไร้เมล็ด

    ดร.นฤทัย กล่าว่า ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น ได้ออกแบบปรับปรุงโรง เรือนให้เหมาะสมกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีนักวิจัยของศูนย์วิจัยฯและนักวิจัยของ สวพ.3 ร่วมกันศึกษาการให้ปุ๋ยกับระบบน้ำและสูตรปุ๋ยที่เหมาะสมให้ผลผลิตของพืช 9 ชนิด ก่อนนำผลที่ได้ไปทดสอบและปรับใช้ในโรงเรือนต้นแบบที่ สวพ.3 ศวพ.ชัยภูมิ มุกดาหาร เลย และนครพนม โดยที่ จ.ขอนแก่น ศึกษาการให้ปุ๋ยไปกับระบบน้ำ การให้ปุ๋ยสูตรที่เหมาะสมในแต่ละช่วงการเจริญเติบโตของพืชตั้งแต่ ต้นกล้า ช่วงออกดอก จนถึงช่วงให้ผลผลิต โดยทดสอบปลูกคะน้าฮ่องกง และแตงกวาญี่ปุ่นในโรงเรือน ส่วนอีก 4 จังหวัดที่นำเทคโนโลยีไปทดสอบเพื่อเป็นต้นแบบให้เกษตรกรเข้ามาเรียนรู้ ได้แก่ จ.เลย ปลูกมะเขือเทศเชอรี่ และผักสลัด จ. มุกดาหาร ปลูกกระหล่ำปลีและผักชี จ.ชัยภูมิ ปลูกพริกจินดา พริกหยวก พริกผลใหญ่ และ จ.นครพนม ปลูกแตงโมไร้เมล็ด


   ทั้งนี้ ในการวิจัยการทดสอบฯโรงเรือนปลูกคะน้าฮ่องกง ได้นำชีวภัณฑ์ผลวิจัยของกรมวิชาการเกษตร มาใช้ป้องกันกำจัดโรคแมลงศัตรูพืช อาทิโรคโคนเน่าจากเชื้อรา ใช้ชีวภัณฑ์ไตรโครเดอร์มาชนิดสด ผสมน้ำรดวัสดุปลูก หนอนกระทู้ผัก หากเริ่มพบหนอนวัย 1-2 ให้พ่นด้วยชีวภัณฑ์บีที อัตรา 200 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 5 วัน หากระบาดรุนแรงหรือพบหนอนวัย 3-4 ให้พ่นด้วยไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงชนิดผง อัตรา 1 กระป๋องต่อน้ำ 20 ลิตร ร่วมกับการปล่อยมวนพิฆาต และใช้วิธีกล ส่วนเพลี้ยไฟ หากพบระบาดให้พ่นด้วยนมสเตอริไลส์รสจืด อัตรา 200 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ผสมสารจับใบ พ่นให้ทั่วทั้งต้นจนต้นเปียก ทุก 5 วัน จนกว่าจะไม่พบการทำลายโดย การผลิตคะน้าฮ่องกงในโรงเรือนช่วงกุมภาพันธ์-เมษายน อุณหภูมิในโรงเรือนค่อนข้างร้อน จึงเก็บผลผลิตได้เฉพาะส่วนยอด ส่วนช่วงมิถุนายน-กันยายน เก็บผล ผลิตได้ทั้งยอดและแขนง และมีต้นทุนค่าวัสดุปลูกลดลง เนื่องจากสามารถใช้วัสดุปลูกเดิมและเติมวัสดุปลูกใหม่เพียงบางส่วน ซึ่งผลผลิตที่ได้จากการปลูก 2 ครั้ง จำนวน 220 กิโลกรัมต่อโรงเรือน มีต้นทุนผลิตเฉลี่ย 14,676 บาทต่อโรงเรือน มีรายได้สุทธิเฉลี่ย 20,290 บาทต่อโรงเรือนต่อรอบการผลิต 

   ดังนั้น ถ้ามีการปลูกคะน้าฮ่องกงในโรงเรือนขนาด 6 x 24 เมตร จำนวน 4 ครั้งต่อปี จะมีรายได้สุทธิประมาณ 81,160 บาทต่อโรงเรือน ส่วนการผลิตแตงกวาญี่ปุ่นในโรง เรือนขนาด 6 X24 เมตร รูปแบบสองชั้น มีต้นทุนการผลิต 9,826 บาท โดยต้นทุนการผลิตส่วนใหญ่เป็นระบบน้ำหยดและวัสดุปลูก ได้ผลผลิตจำนวน 401 กิโลกรัม มีรายได้รวม 17,866 บาทต่อรอบการผลิต
   “ถ้ามีโรงเรือนแต่เกษตรกรไม่ทราบเทคโนโลยีบริหารจัดการข้างในโรงเรือนก็จะทำให้การปลูกผักไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ถ้าเกษตรกรนำเทคโนโลยีที่ได้จากการวิจัยอย่างครบถ้วนนี้ไปปรับใช้ นอกจากจะทำให้ได้ผลผลิตสูง มีคุณภาพได้มาตรฐานความปลอดภัยแล้วยังมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นและคุ้มทุนในระยะเวลาที่เร็วขึ้นเพราะสามารถผลิตได้ตลอดปี ขณะนี้ สวพ.3 ได้จัดฝึกอบรมหลักสูตร“การผลิตพืชปลอดภัยในระบบโรงเรือน”เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับเกษตรกรในพื้นที่ จ.ขอนแก่น กาฬสินธุ์ และอุดรธานี ได้เรียนรู้และนำไปปรับใช้ภายในโรงเรือนของตนเอง”ดร.นฤทัย กล่าว

    อย่างไรก็ตาม สำหรับเกษตรกรที่สนใจเทคโนโลยีการผลิตพืชปลอดภัยในระบบโรงเรือน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สวพ.3 จ.ขอนแก่น  โทรศัพท์ 043-203500 ต่อ 292  

    ขอบคุณข้อมูล-ภาพ : ทีมประชาสัมพันธ์ กรมวิชาการเกษตร

แชร์ :
ที่มาของเนื้อหา : https://www.kaset1009.com/th/articles/259406