การเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมบ้านเรามีปัญหา ทั้งในเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และปริมาณผลผลิตที่ลดลงไปอย่างมาก สาเหตุมาจากโรคและระบบการเลี้ยง ตามเดิมเคยผลิตได้มากถึงปีละ 6.5 แสนตัน ลดลงมาเหลือ 2.7 แสนตัน จนต้องมีการสั่งนำเข้า และภาครัฐต้องเร่งฟื้นฟูผลผลิต กุ้ง ตั้งเป้าหมายผลิตให้ได้ 400,000 ตัน ภายในปีหน้า
เนื่องด้วยปัจจุบันผลผลิตกุ้งขาวให้ผลผลิตแค่เพียงไร่ละ 1.6 ตัน เพราะการเลี้ยงบ่อดินใช้พื้นที่มาก 1 ตร.ม.เลี้ยงได้แค่ 50-60 ตัว ในขณะที่การเลี้ยงกุ้งขาวในระบบน้ำหมุนเวียนของสาขาวิชาการประมง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พื้นที่ 1 ตร.ม. สามารถเลี้ยงกุ้งขาวได้มากถึง 300 ตัว พื้นที่ไม่ถึง 1 งาน เลี้ยงกุ้งขาวได้ถึง 18,000 ตัว ที่สำคัญระบบการเลี้ยงกุ้งขาวตามวิธีของคณะเกษตรศาสตร์ มข. ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีอะไรที่ซับซ้อน ใช้แค่เพียงหลักการธรรมชาติบำบัดธรรมชาติ เกษตรกรสามารถทำได้เอง
“โครงการเลี้ยงกุ้งขาวความเค็มต่ำในระบบน้ำหมุนเวียนของเรา ไม่มีการถ่ายเทของเสียไปสู่สิ่งแวดล้อมเลย แถมระบบบำบัดของเรายังทำให้ได้อาหารเลี้ยงลูกกุ้งแบบฟรีๆ นานเป็นสัปดาห์อีกต่างหาก”
อ.กัมพล ไทยโส ผู้จัดการหมวดประมง สาขาวิชาการประมง คณะเกษตรศาสตร์ มข. อธิบายถึงระบบการเลี้ยงกุ้งแบบนี้ว่า…จะประกอบไปด้วย บ่อผ้าใบวงกลมกว้าง 6 ม. ลึก 1 ม. จำนวน 6 บ่อ โดยจะแบ่งเป็น บ่อสำหรับเลี้ยงกุ้ง 4 บ่อ และบ่อกรอง 2 บ่อ…ทุกบ่อจะใส่น้ำลึก 80 ซม.
“หัวใจสำคัญของระบบการเลี้ยงนี้ อยู่ตรงบ่อกรองหรือบ่อบำบัดน้ำเสียที่มาจากขี้กุ้งในบ่อกรองทั้ง 2 บ่อ เราจะทำเหมือนกันนั่นคือ พื้นที่ครึ่งบ่อจะนำปลานิล ตัวขนาด 30 กรัม มาปล่อยบ่อละ 150 ตัว เพื่อให้มาทำหน้าที่กิน บำบัดขี้กุ้งที่จมน้ำให้เปลี่ยนมาเป็นขี้ปลาที่ลอยน้ำได้ และพื้นที่อีกครึ่งบ่อจะเอาเศษอวนมาวางกองทับถมให้มีลักษณะเหมือนเป็นเขื่อนกั้นไม่ให้ปลาว่ายเข้าไปอยู่ในพื้นที่อีกครึ่งบ่อได้ แต่น้ำและขี้ปลาลอยลอดเข้าไปได้
เพราะพื้นที่อีกครึ่งบ่อที่เหลืออยู่ เราจะเอาเศษกระชังตาถี่มามัดรวมกับลูกบอลเพื่อให้ลอยน้ำได้ ทำออกมาแล้ว หน้าตามันจะคล้ายกับตุ๊กตาไล่ฝนในการ์ตูน อิคคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญานั่นแหละ ทำเพื่อดักจับขี้ปลาและให้เป็นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์ อีเอ็ม ที่จะมาช่วยบำบัดของเสียให้เป็นน้ำดี และจะมีการติดต่อปั๊มลมขนาด 1.6 กิโลวัตต์ 1 ตัว เพื่อปั๊มอากาศให้บ่อกุ้ง และติดตั้งปั๊มน้ำขนาด 1.8 กิโลวัตต์อีก 2 ตัว เปิดสลับกันใช้กลางคืน กลางวัน เพื่อสูบน้ำที่เสียและน้ำดีให้ไหลหมุนเวียนในระบบ”
ส่วนการเดินระบบน้ำหมุนเวียนนั้น อ.กัมพล บอกว่า หลังจากลงกุ้งในบ่อเลี้ยงไปบ่อละ 6,000 ตัวเรียบร้อยแล้ว ปั๊มน้ำจะเริ่มสูบน้ำออกจากบ่อกรอง เมื่อน้ำในบ่อกรองลดลง น้ำในบ่อเลี้ยง สูงกว่า น้ำจากบ่อเลี้ยงจะไหลมาเข้าบ่อกรองได้แบบหมุนเวียนอย่างอัตโนมัติทั้งวันทั้งคืน
เมื่อบำบัดหมุนไว้ไปเรื่อยๆ ขี้กุ้งถูกปลากิน ขี้ปลาลอยเป็นตะกอนไปติดตุ๊กตาไล่ฝนที่ลอยน้ำ เมื่อสะสมมากเข้า สภาพจะเหมาะสมให้ตัวริ้นบินมาวางไข่ เพื่อให้ลูกน้อยที่ฟักจากไข่ฟักมาเป็นหนอนแดง จะได้มีตะกอนกินเป็นการช่วยบำบัดของเสียในบ่อได้อีกทางผลที่ตามมาหนอนแดงขยายพันธุ์อยู่ในบ่อกรอง…ถึงเวลาจับกุ้งขาย หนอนแดงที่เหลืออยู่ในบ่อกรอง จะกลายเป็นอาหารของลูกกุ้ง ที่เราจะเอาลงเลี้ยงรอบใหม่เกษตรกรที่ต้องการรายละเอียดและวิธี การเลี้ยงเรียนรู้การเลี้ยงกุ้งขาวความเค็มต่ำในระบบน้ำหมุนเวียนแบบยั่งยืน ติดต่อได้ที่ คณะเกษตรศาสตร์ มข. โทร.0-4320-2360.