วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ข้าวโพดหลังนาตำบลวังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นับเป็นที่ประสบผลสำเร็จในการยกระดับการผลิตด้วยเกษตรสมัยใหม่ และมีจุดเด่นในด้าน Zero Waste ด้วยการไถกลบต้นข้าวโพดเพิ่มอินทรียวัตถุปรับปรุงโครงสร้างดิน และการนำมาบดสับหมักเป็นอาหารสัตว์
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 ชลบุรี (สศท.6) ติดตามผลการดำเนินงานพบว่า วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ข้าวโพดหลังนาตำบลวังตะเคียน มีการเสนอแผนยกระดับศักยภาพสามารถเข้าร่วมโครงการยกระดับแปลงใหญ่ ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ภายใต้งบประมาณตามโครงการเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019
ได้รับการสนับสนุนรถเกี่ยวพร้อมอุปกรณ์ เทรเลอร์ลากรถเกี่ยว หัวรถเกี่ยวข้าวโพด แทรกเตอร์พร้อมอุปกรณ์ดันหน้า เครื่องหยอดข้าวโพด เครื่องพ่นยาแรงดันสูง เครื่องผสมปุ๋ย และโรงเก็บวัสดุ
ผลลัพธ์สำเร็จของการดำเนินงาน…สมาชิกกลุ่มใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ใช้มูลสุกรมาทำปุ๋ยอินทรีย์และทำน้ำหมักชีวภาพ และการใช้เครื่องจักรทางการเกษตรตลอดกระบวนการผลิตจนถึงขั้นตอนการเก็บเกี่ยว สามารถลดต้นทุนการผลิตจาก 5,800 บาท/ไร่/ปี เหลือเพียง 4,550 บาท/ไร่/ปี หรือลดลง 22%
สมาชิกกลุ่มเลือกใช้เมล็ดพันธุ์ดี เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เปอร์เซ็นต์การงอกสูง มีความต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืช ใช้เครื่องหยอดแทนการใช้แรงงานคนเพื่อให้ข้าวโพดเจริญเติบโตสม่ำเสมอ ไม่แย่งอาหารกัน ประกอบกับการใช้มูลสุกรเพื่อปรับปรุงดินและบำรุงต้นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สามารถเพิ่มผลผลิตจาก 1,370 กก./ไร่/ปี เป็น 1,800 กก./ไร่/ปี หรือเพิ่มขึ้น 31%
มีการพัฒนาความรู้ด้านคุณภาพ เก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวโพด การสังเกตต้นที่แห้งและเปลี่ยนเป็นสีฟางข้าว เพราะเป็นช่วงที่ข้าวโพดแก่จัด แห้งสนิท และยังเป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีคุณภาพดีและความชื้นต่ำ ทำให้ได้ราคาดี ส่งผลให้เกษตรกรสมาชิกกลุ่มมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 136,541 บาท/ปี/ราย เป็น 224,595 บาท/ปี/ราย หรือมีรายได้
เพิ่มขึ้น 65%
นอกจากนี้ในระยะต่อไปวิสาหกิจชุมชนฯ ยังมีแผนสร้างรายได้เพิ่มจากเมล็ดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ด้วยการผลิตเป็นส่วนผสมอาหารสุกรขายให้กับสมาชิกกลุ่มที่มีการเลี้ยงสุกร ปลูกขายในรูปแบบข้าวโพดต้นอ่อนเป็นพืชอาหารโคเนื้อ และเป็นตัวแทนขายเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย เพื่อขายให้ชุมชน.