สินค้าเกษตรหลายชนิดราคาพุ่ง ข้าวเจ้า-ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผลผลิตล้นตลาด

นายไพศาล หงษ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการและโฆษกธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่าศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือนพฤศจิกายน 2565 สินค้าเกษตร พบว่าสินค้าที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคา 9,482-9,735 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.61-4.32% เนื่องจากสต๊อกข้าวเหนียวของผู้ประกอบการลดลง จึงต้องเร่งซื้อข้าวเปลือกเหนียวนาปีในช่วงกำลังออกสู่ตลาด และน้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคา 18.81-18.98 เซนต์/ปอนด์ (15.90-16.05 บาท/กก.) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.86-1.77% เนื่องจากต้นทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นจากการลดกำลังผลิต ของกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) ส่งผลดีต่อราคาเอทานอล ทำให้ผู้ประกอบการเพิ่มสัดส่วนการนำอ้อยไปผลิตเอทานอลมากกว่าผลิตน้ำตาล คาดว่าปริมาณผลผลิตน้ำตาลของบราซิลและอินเดียอาจลดลงจากปริมาณฝนตกต่อเนื่อง การเก็บเกี่ยวและเวลาการหีบอ้อยลดลงจึงส่งออกน้ำตาลลดลงไปด้วย

ส่วนมันสำปะหลัง ราคา 2.65-2.75 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 2.32-6.18%เนื่องจากความต้องการใช้มันสำปะหลังทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศจีน เมื่อเงินบาทอ่อนค่าจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนให้การส่งออกมันสำปะหลังเพิ่มขึ้น ขณะที่ปาล์มน้ำมัน ราคา 5.04-5.29 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.79-6.65% เพราะผลผลิตปาล์มน้ำมันมีแนวโน้มลดลงจากปัญหาน้ำท่วมหลายพื้นที่ รวมถึงปัญหาโรคลำต้นเน่าในปาล์มน้ำมันและปาล์มน้ำมันขาดคอ ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น

ด้านสุกร ราคา 104.73-105.08 บาท/กก.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.76-1.10% เนื่องจากปัญหาสุกรขาดแคลนในประเทศคู่ค้า จีนต้องการเนื้อสุกรสูงขึ้น ปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ทำให้ต้นทุนการผลิตสุกรของไทยสูงขึ้น เกษตรกรยังต้องลงทุนฟื้นฟูฟาร์มและป้องกันโรคในสุกรเพื่อลดความเสี่ยงจากโรคมากับน้ำ ต้นทุนการเลี้ยงสุกรขุนจึงมีแนวโน้มสูงขึ้นถึง 300-500 บาทต่อตัว และกุ้งขาวแวนนาไม (70 ตัว/กก.) คาดว่า ราคา 129.18-132.22 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 2.52-4.94 % เนื่องจากความต้องการบริโภคกุ้งในประเทศเพิ่มขึ้น จากการเริ่มฤดูกาลท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตามกลุ่มสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคา 8,995-9,032 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อน 1.031.45% เนื่องจากเป็นช่วง ผลผลิตข้าวนาปีออกสู่ตลาดจำนวนมากกว่า 65% ของผลผลิตข้าวนาปีทั้งหมด ส่งผลให้ราคาปรับตัวลง ขณะที่ อิรักยังคงมีคำสั่งซื้อข้าวไทยจนถึงเดือนพฤศจิกายน และแนวโน้มค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่า เป็นปัจจัยบวกหนุนการส่งออกข้าวของไทย ส่วนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคา 9.25-9.29 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน 0.75-1.18% เนื่องจากเป็นเดือนที่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ออกสู่ตลาดมากที่สุดกว่า 1.57 ล้านตัน จึงส่งผลให้ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปรับตัวลดลง