ค้นหา

จากพืชเชิงเดี่ยวสู่เกษตรอินทรีย์ ขายส่งห้างเดือนละหลักแสน

ไทยรัฐออนไลน์
เข้าชม 473 ครั้ง

ชนะอะไรไม่เท่าชนะใจตัวเอง…เป็นจุดเริ่มต้นของเกษตรกรยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ที่พลิกฟื้นผืนดินจากการทำเกษตรแบบดั้งเดิม มาสู่การทำเกษตรอินทรีย์ แม้ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมาเป็นเวลากว่า 2 ปี แต่ในที่สุดได้แปลงผักออร์แกนิกมาตรฐาน ส่งถึงมือผู้บริโภคผ่านสาขาต่างๆของแม็คโคร
“ครอบครัวผมเป็นเกษตรกรชาวไร่ ปลูกอ้อย มันสำปะหลัง เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ปีละครั้ง เมื่อเรียนจบออกมา จึงมองหาช่องทางที่จะปลูกพืชผักชนิดอื่น เพื่อหารายได้หมุนเวียนเข้ามาเสริม ช่วงแรกลองผิดลองถูกปลูกผักหลายชนิดที่ต้องใช้สารเคมี เพราะได้รับการบอกเล่ามาว่าจะให้ผลตอบแทนดี แต่สุดท้ายต้องเปลี่ยนแนวคิด เพราะตัวผมเองได้รับผลกระทบจากการฉีดพ่นยา แสบคันไปทั้งตัว จึงมองหาวิธีใหม่ และเห็นว่าผักอินทรีย์ ผักออร์แกนิกปลอดสารพิษเป็นคำตอบสุดท้าย”
ธนวัฒน์ ว่องไวตระการ ประธานวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี วัย 27 ปี เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการปลูกผักเสริมรายได้จากการทำไร่อ้อยและมันสำปะหลัง จนผักกลายเป็นรายได้หลักอีกอย่าง…หลังเปลี่ยนแนวคิดลดใช้สารเคมี จึงเริ่มหาความรู้ในการทำเกษตรอินทรีย์แบบเจาะลึก ทั้งจากหน่วยงานรัฐ เรียนรู้จากวิสาหกิจชุมชนต่างๆ จนพบกับเกษตรกรที่เป็นเครือข่ายผู้ส่งผลผลิตให้กับแม็คโคร จึงได้แลกเปลี่ยน พูดคุยรวมถึงให้คำแนะนำภายใต้แนวคิด “การตลาดนำการผลิต” โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหลังสถานการณ์โควิด ที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น ความต้องการผักอินทรีย์ ผักออร์แกนิกปลอดสารพิษ จึงมีมากขึ้นตามลำดับ
เมื่อหันเข้าสู่วิถีเกษตรอินทรีย์ จากการจุดประกายของเกษตรกรเครือข่ายผู้ส่งผลผลิตให้กับแม็คโครแล้ว จึงขอทางบ้านเปลี่ยนพื้นที่กว่า 60 ไร่ มาทำเกษตรอินทรีย์ ปลูกผักออร์แกนิก โดยใช้เวลากว่า 2 ปี ในการพัฒนาและปรับสภาพแวดล้อมให้ได้มาตรฐานออร์แกนิกและจีเอพี ซึ่งต้องลงทุนไปค่อนข้างเยอะ ช่วงแรกขาดทุนไปเป็นหลักล้านบาท แต่ก็ไม่ได้ท้อ ศึกษาหาความรู้เรื่อยมา กระทั่งลงมือทำแล้วเห็นผล จึงรวมกลุ่มกับเพื่อนเกษตรกรจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ขึ้นมา เพื่อสร้างผลผลิตที่จะตอบโจทย์ความต้องการของตลาด จนได้พื้นที่เกษตรอินทรีย์แปลงใหญ่ ที่ประสบความสำเร็จอย่างปัจจุบัน

“ช่วงแรกผมปลูกผักอายุสั้น ให้ได้ผลตอบแทนเร็ว เช่น กวางตุ้ง ผักบุ้ง คะน้า ก็โตบ้าง ไม่โตบ้างเลยพยายามหาความรู้เพิ่มเติม และลองผิดลองถูก รวมทั้งไปศึกษาดูงานจากที่ต่างๆ จึงรู้ว่าตลาดมีความต้องการสินค้าชนิดใด เราก็ปลูกพืชชนิดนั้น ส่งผลให้มีรายได้ต่อเนื่องและมั่นคงมากขึ้น ขณะเดียวกันก็คิดนอกกรอบ เตรียมทำผักดูโอที่ใช้ได้ทั้งกินและตกแต่ง ซึ่งเป็นที่ต้องการของร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรม อย่างโรสแมรี่และเลมอนส่งขาย เพื่อเพิ่มรายได้ให้กลุ่มต่อไป”

ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ส่งผักปลอดสารพิษไปจำหน่ายยังสาขาต่างๆของแม็คโครมากกว่า 30 ชนิด มีรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน โดยไม่หยุดที่จะพัฒนา พืชผักเกษตรอินทรีย์ให้มีคุณภาพ พัฒนาผักอินทรีย์ใหม่ๆป้อนตลาดที่มีความต้องการอย่างต่อเนื่อง.

แชร์ :
ที่มาของเนื้อหา : https://www.thairath.co.th/news/local/central/2578715