ศอ.บต.เดินหน้าหนุนวิสาหกิจชุมชน ผุดไอเดียสุดเจ๋งสร้างต้นแบบ Soft Power ยกระดับคุณภาพชีวิตคนชายแดนใต้สู่ความยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “ปลุกภูมิปัญญาจากขุนเขา สู่ลวดลายอัตลักษณ์บนผืนผ้า”
ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชน BARAHOM PARZAAR ต.บาราโหม อ.เมือง จ.ปัตตานี พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วย น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ด้านการมีส่วนร่วม) และนางสุนิสา รามแก้ว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (กรมประชาสัมพันธ์) ลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมการแสดงงานผ้าภายใต้แนวคิด “ปลุกภูมิปัญญาจากขุนเขา สู่ลวดลายอัตลักษณ์บนผืนผ้า” โดยมีว่าที่ ร.ต.ตระกูล โทธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่เข้าร่วม
พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวถึงพื้นที่แห่งนี้คือต้นแบบในการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่มีอยู่ในพื้นที่มาสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้คนในชุมชน ซึ่งเป็นการนำ soft power มาใช้ให้เกิดประโยชน์และลงตัว โดยเฉพาะการนำสีจากเมล็ดกาแฟมาทำสีย้อมผ้า และเอาลวดลายจากถ้ำคอกซึ่งมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานมาพิมพ์ลายลงบนผืนผ้า อีกทั้งยังใช้ลวดลายจากเศษซากกระเบื้องข้าวของเครื่องใช้โบราณมาพิมพ์เป็นลาย ถือเป็นการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและมีอัตลักษณ์เฉพาะในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และสงขลา ทำให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ดังนั้น ทุกภาคส่วนควรที่จะต้องช่วยกันผลักดันและส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืน เพราะถือว่ากลุ่มวิสาหกิจทั้ง 2 กลุ่มนี้ได้ก้าวเดินมาในทิศทางที่ถูกต้อง ต้องขอขอบคุณภาคส่วนราชการในพื้นที่ที่ได้ช่วยกันผลักดันให้เกิดความยั่งยืนกับคนชายแดนใต้ต่อไป
ด้านนางฟารีดา กล้าณรงค์ หัวหน้ากลุ่มบาราโหมบาร์ซา เปิดเผยถึงแนวคิดในการนำสีของกาแฟมาทำสีย้อมผ้าว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการทำผ้าบาติก ซึ่งการนำกาแฟมาทำสีย้อมผ้าได้ผสมผสานกับวัตถุดิบที่มีอยู่ในพื้นที่ ซึ่งมีจุดเด่นไม่เหมือนใคร ถือเป็นสิ่งที่น่าค้นหาและมีกลิ่นอายของศิลปวัฒนธรรมหลงเหลืออยู่มาวาดลวดลายสร้างมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนได้มีอาชีพเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ อยากจะเชิญชวนผู้ที่สนใจสามารถแวะเวียนเข้ามาอุดหนุนสินค้าจากภูมิปัญญาชาวบ้านได้ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแห่งนี้ในราคาที่ย่อมเยา
ขณะที่ นายจีรวัฒน์ นุ่นศรี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรผสมผสานรักบ้านเกิด ต.เขาแดง อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา กล่าวด้วยว่า การนำผลผลิตจากเมล็ดกาแฟที่ตกเกรดไม่สามารถผลิตเป็นผลิตภัณฑ์กาแฟที่มีคุณภาพได้ เกิดจากแนวคิดในการนำสีของกาแฟมาย้อมลงบนผืนผ้า ดึงลวดลายที่เชื่อมโยงประวัติศาสตร์มาสื่อสารให้เกิดความหมาย สร้างความสวยงามบนผืนผ้า ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่เข้ามาส่งเสริมสนับสนุนจนประสบความสำเร็จ พร้อมทั้งหาช่องทางทางการตลาดให้สามารถมีแหล่งรองรับผลิตภัณฑ์ ตลอดจนหาผู้ที่มีองค์ความรู้มาเพิ่มเสริมทักษะให้กลุ่มวิสาหกิจได้นำไปต่อยอดจนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่า และมีรายได้ที่ยั่งยืน
สำหรับกิจกรรมการแสดงงานผ้าภายใต้แนวคิด “ปลุกภูมิปัญญาจากขุนเขา สู่ลวดลายอัตลักษณ์บนผืนผ้า” เป็นความร่วมมือจากผู้ประกอบการกลุ่มวิสาหกิจชุมชน BARAHOM PARZAAR ต.บาราโหม อ.เมือง จ.ปัตตานี และผู้ประกอบการกลุ่มวิสาหกิจกาแฟดำโรบัสต้า ต.ถ้ำคอก อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่ได้นำผลผลิตกาแฟ ซึ่งถือเป็นต้นทุนที่มีอายุยาวนานกว่า 300 ปี มาสกัดเป็นสีย้อมผ้าพิมพ์ลวดลายจากร่องรอยมรดกทางวัฒนธรรมในพื้นที่ มาสรรค์สร้างลงบนผืนผ้าผสมผสานภูมิปัญญาชาวบ้าน อันมีเอกลักษณ์ที่หลงเหลืออยู่ภายในชุมชนผลิตเป็นสินค้าผ้าบาติกสร้างอาชีพกระจายรายได้สู่ชุมชน
นอกจากนี้ ภายในกิจกรรมยังมีการมอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กกำพร้า จำนวน 16 ทุน และวากัฟ (การบริจาคเพื่อสาธารณกุศล) ให้แก่มัสยิด ในโอกาสย่างเข้าสู่เดือนรอมฎอน ฮ.ศ.1444 ซึ่งเป็นเดือนอันประเสริฐของพี่น้องชาวไทยมุสลิมด้วย