“เมื่อ 2 ปีก่อนได้รับการจัดสรรที่ดิน 2 ไร่กว่าๆ จากการออมเงินเดือนละ 200 บาทกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่พัฒนา ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เพราะมีสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. นำที่ดินมาแจกจ่ายให้กับกลุ่มสมาชิกที่มีความต้องการเปลี่ยนวิถีชีวิตมาทำการเกษตร โดยมีข้อแม้ว่า ที่ดินนี้จะขายต่อให้กับคนอื่นไม่ได้ แต่จะตกทอดเป็นมรดกให้กับลูกหลานและนำไปทำการเกษตรเช่นดั้งเดิม”
แดง เชิงคิรินทร์ วัย 50 ปี เผยว่า เดิมทีครอบครัวอาศัยอยู่ในเมือง เช่าบ้านเขาอยู่ ทำงานรับจ้างในบริษัท ทำได้เท่าไหร่ค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอต่อการครองชีพ จึงคิดหันมาทำการเกษตร แต่ไม่มีที่ดินทำกิน จึงไปเข้าร่วมกับวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่พัฒนา ที่เขามีแนวทางในการประสานงานติดต่อจัดสรรที่ดินมาให้ได้จาก บจธ.
ที่ดินที่ได้มาเดิมเคยเป็นของนายทุนที่ทำสวนลำไยแต่ภายหลังถูกทิ้งร้างไว้ไม่ให้ผลผลิตแล้ว จึงเข้ามาปรับปรุงพื้นที่ เริ่มตั้งแต่ปลูกบ้านหลังเล็กไว้ติดตั้งระบบไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ และใช้การสูบน้ำด้วยปั๊มน้ำ ทำพื้นที่แห้งแล้งให้รู้สึกชุ่มฉ่ำสามารถปลูกพืชได้แล้ว
“เมื่อคิดจะปลูกพืช เลยไปศึกษาตัวเองก่อนว่าจะปลูกอะไรดี แต่จากการทำงานในบริษัทและชอบทำอาหารจึงไปเป็นเชฟให้กับร้านอาหาร จึงคิดปลูกอะไรที่จะได้นำมาทำเป็นอาหารได้ สุดท้ายคิดว่าทำเป็นสวนผสมผสานดีที่สุด เริ่มจากการปลูกผักไปก่อน มีทั้งผักบุ้งจีน ผักคะน้า ผักกาดขาว ผักสลัด ต่อมาเริ่มปลูกพืชยืนต้น มีทั้งทุเรียน หมาก ลำไย ชมพู่เพชร กระท้อน ลิ้นจี่ เงาะ ฝรั่ง โกโก้ กล้วย ฯลฯ แล้วแต่จะหาพันธุ์ไม้ผลอะไรมาได้ก็ลงมือปลูกในพื้นที่ 2 ไร่นี้”
ลุงแดง บอกว่า ตอนแรกที่ลงทุนเริ่มจากปลูกบ้านไปสองแสนกว่าบาท ลงทุนติดตั้งโซลาร์เซลล์อีกห้าหมื่นบาท ค่าต้นพันธุ์พืช และค่าปุ๋ยชีวภาพอีกประมาณสามหมื่นบาท
มาถึงวันนี้มีรายได้กลับมาแล้วเดือนละประมาณหนึ่งหมื่นห้า พันบาท จากผลผลิต ตั้งแต่ผัก ผลไม้ กล้วย โกโก้ ฝรั่ง ชมพู่ หมาก และคาดว่าอีก 1–2 ปีข้างหน้านี้ ผลผลิตไม้ผล เช่น ทุเรียน ลำไย กระท้อน เงาะ และลิ้นจี่ จะออกผลผลิตมาจำหน่ายได้อีก
“ในช่วงแรกผลผลิตโกโก้ออกมาเยอะมาก เราเคยไปขายให้พ่อค้าและโรงงาน ช่วงแรกรับซื้ออยู่บ้างตอนหลังกลับกดราคาและไม่ยอมรับซื้อ ในที่สุดเราเลยคิดหาทางออกด้วยการแปรรูปเสียเอง ตั้งแต่การเก็บเกี่ยวนำมาอบแห้ง และปั่นให้เป็นผง กระทั่งแปรรูปเป็นไอติม ขนมไส้ฟักทอง นำโกโก้ปั่นบรรจุขวด ผลปรากฏว่ามีรายได้ดีกว่านำไปขายให้พ่อค้าเสียอีก ในช่วงที่มีเวลาว่างก็จะนำไปจำหน่ายตามตลาดนัดเพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด”
นอกจากนี้ ลุงแดง ยังนำไปขายในสื่อออนไลน์ โดยใช้ชื่อผลิตภัณฑ์ไร่เชิงคิรินทร์ พร้อมทั้งยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยว หรือผู้สนใจได้เข้ามาชมแปลงปลูกพืชแบบผสมผสานได้ไม่เว้นวันหยุดราชการ ติดต่อมาล่วงหน้าก่อนที่ 0-9285-7156.