เกษตรกรที่หนองขาหย่าง ทำนาข้าวแบบโดยไม่ต้องเผาซัง ชี้เป็นปุ๋ยอย่างดี ช่วยให้ดินอุ้มน้ำยามหน้าแล้ง แถมดินก็สมบูรณ์ ทำนาได้ถึงปีละ 3 ครั้ง เพียงแค่บำรุง หรือป้องกันแมลง แล้วรอเกี่ยวขาย
นางจำรูญ เก่งธัญกรรม อายุ 70 ปี ซึ่งทำนาไว้จำนวน 30 ไร่ ในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลหมกแถว อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี โดยในช่วงเดือนพฤษภาคมยังคงเป็นฤดูที่แล้งจัดในพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่นั้นจะหยุดทำการเกษตรหรือนาข้าว แต่ในวันนี้ นางจำรูญ นั้นกลับจ้างรถเกี่ยวข้าวมาเพื่อเก็บเกี่ยวขาวที่ออกรวงเพื่อนำไปขาย ผู้สื่อข่าวได้สอบถามก็เพราะเห็นว่าพื้นที่แห้งแล้งแบบนี้ทำนาได้อย่างไร
นางจำรูญ เปิดเผยว่า สำหรับผืนนาที่ปลูกข้าวอยู่นั้นไม่เคยเผาซัง หรือตอข้าวเลย ใช้วิธีไถแล้วก็กลบก่อนที่จะทำการหว่านข้าว และก็ทำแบบนี้มาตลอดในการทำนามากว่า 30 ปี ซัง หรือตอ ที่ทำการไถกลบไปในดินแล้วจะเป็นปุ๋ยอย่างดี ทำให้ใช้ยาบำรุงน้อยลงอีกด้วย แถมยังทำหน้าที่อุ้มน้ำไว้อีก จึงทำนาได้ถึงแม้ว่าจะแล้งก็ใช้น้ำเพียงแค่สูบไว้หล่อเลี้ยงเท่านั้น ไม่จำเป็นอีกด้วย
ขณะผืนนาที่อยู่ใกล้เคียงนาของนางจำรูญนั้นยังมีรอยเผาซัง หรือตอข้าวให้เห็นเป็นรอยไหม้ แถมยังมีร่องรอยแห่งความแห้งแล้ง และไม่ได้ทำนามาแล้วเนื่องจากไม่มีน้ำจะทำนานั่นเอง โดยในเรื่องแหล่งน้ำทำนา นางจำรูญ กล่าวว่า นาของตัวเองนั้นก็ต้องใช้น้ำทำนาเหมือนนาข้าวปกติทั่วไป แต่ด้วยนาที่มีซังหรือตอข้าวอยู่ปนกับดินนั้นมันจะช่วยอุ้มน้ำไว้ชุ่มชื้นตลอดเวลา และทำให้ลดต้นทุนในการสูบน้ำเข้านาข้าวได้เยอะในช่วงแล้งแบบนี้
ที่ต้องทำระหว่างนั้นก็คือบำรุงต้นข้าวไห้ดีเท่านั้นเอง และไม่ให้แมลงมารบกวนต้นข้าวจนกลายเป็นโรคต่างๆ อีกทั้งข้าวที่เกี่ยวไปนั้นก็ขายได้ราคาดีอีกด้วย ซึ่งการทำนาข้าวของ นางจำรูญ นั้นเป็นตัวอย่างที่ดีได้เลย และแถมยังทำให้ไม่เกิดมลพิษทางอากาศ แถมทำนาปรังได้ หรือทำนาได้ปีละถึง 3 ครั้งเลยก็ว่าได้.