กรมวิชาการเกษตร ส่งสะตอพันธุ์ตรัง 1 ถึงมือเกษตรกร ชูจุดขายให้ผลผลิตนอกฤดู เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า เผยเป็นสะตอผลิตนอกฤดูพันธุ์แรกของกรม ใช้เวลาปลูกสั้น 3 ปี ให้ผลผลิต แถมเก็บขายได้มากกว่า 1 ครั้ง/ปี ต้นไม่สูงมาก เก็บเกี่ยวง่าย ฝักตรง ยาว เมล็ดมีขนาดสม่ำเสมอ
สะตอเป็นพืชพื้นเมืองทางภาคใต้ของประเทศไทย ถือเป็นพืชผักเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญ สามารถนำไปปรุงอาหารได้หลายชนิด มีคุณค่าทางอาหารและทางสมุนไพร ทำให้ความต้องการบริโภคสะตอของตลาด มีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรสนใจปลูกสะตอกันอย่างแพร่หลายเกือบทุกภาคของประเทศ แต่ในปัจจุบัน ผลผลิตสะตอยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด เนื่องจากสะตอให้ผลผลิตได้เป็นช่วงฤดู คือ จะให้ผลผลิตมากในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมรวมทั้งสะตอพันธุ์ที่เกษตรกรเพาะปลูกส่วนใหญ่จะใช้วิธีการขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดทำให้ได้ผลผลิตช้า
สะตอพันธุ์ตรัง 1 มีลักษณะเด่นตรงตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการคือ ให้ผลผลิตทั้งในฤดูช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม และนอกฤดูช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน เนื่องจากไม่ทิ้งใบหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต ทำให้สะตอพันธุ์ตรัง 1 สามารถให้ผลผลิตได้มากกว่า 1 ครั้ง ในรอบปี และยังให้ผลผลิตเร็ว โดยจะเริ่มออกดอกเมื่ออายุ 3 ปีหลังปลูก รวมทั้งฝักยังมีลักษณะตรงและยาว เมล็ดมีขนาดสม่ำเสมอเรียงชิดติดกัน ทำให้ง่ายต่อการบรรจุฝักลงภาชนะ ทรงพุ่มต่ำ เกษตรกรจึงสะดวกต่อการดูแลรักษาและการเก็บเกี่ยวผลผลิต
สะตอพันธุ์ตรัง 1 เป็นสะตอพันธุ์แรกที่ผ่านการพิจารณาเป็นพันธุ์แนะนำของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งมีลักษณะประจำพันธุ์ที่สำคัญคือให้ผลผลิตนอกฤดู ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 3-4 เท่า เพราะราคาผลผลิตสะตอนอกฤดู สูงมากประมาณ 15 บาทต่อฝัก ขณะที่ผลผลิตในฤดูมีราคาเพียง 3-5 บาทต่อฝัก ใช้เวลาปลูกสั้นเพียง 3 ปี ก็ให้ผลผลิตแล้ว ลำต้นไม่สูง เกษตรกรจึงสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ไม่ยาก รสชาติดีหวาน มัน ด้วยลักษณะเด่นประจำพันธุ์สะตอตรัง 1 ดังกล่าว จึงทำให้พันธุ์เป็นที่ต้องการของเกษตรกรจำนวนมาก ซึ่งฝ่ายผลิตพันธุ์ของศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง ได้ทำแปลงต้นพันธุ์และเพาะต้นกล้าสะตอไว้สำหรับติดตาขยายพันธุ์ จึงไม่มีปัญหาเรื่องการขยายพันธุ์ หากเกษตรกรสนใจ สามารถสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง โทรศัพท์ 06-3227-6250