ปัญหาที่เกษตรกรภาคปศุสัตว์ยังคงพบเจอคือ “เนื้อสัตว์ผิดกฎหมาย” ส่งผลให้เกษตรกรรายได้ลดลง ไม่สามารถขายได้ในราคาตามที่ต้องการ ต้นทุนสูงขึ้น และการตลาดมีความไม่แน่นอน ดังนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาและต้องการที่จะแก้ไขโดยใช้หลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” เพื่อยกระดับการผลิตของเกษตรกรให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด และผลักดันการใช้เทคโนโลยีสู่เกษตรกร สร้างความสะดวก สบาย และเกิดความแม่นยำในการผลิตยิ่งขึ้น
ดร.ไชยา พรหมา กล่าวถึงการดำเนินงานด้านปศุสัตว์ว่า สิ่งแรกที่ต้องเร่งแก้ปัญหาคือ “เนื้อสัตว์ผิดกฎหมาย” ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมานาน กระทบเกษตรกรเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านต้นทุน เกษตรกรต้องแบกรับภาระด้านต้นทุนที่สูงแต่ขายไม่ได้ราคา ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงมีความมุ่งหวังที่จะคุ้มครองผลผลิตภายในประเทศ รวมไปถึงสร้างความเชื่อมั่นแก่เกษตรกรและผู้บริโภค นอกจากนี้อยากผลักดันให้เกษตรกรที่ประกอบอาชีพปศุสัตว์เป็น Smart Farmer คือมีความทันสมัย เกษตรกรสามารถใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมต่าง ๆ เข้ามาช่วยในการทำปศุสัตว์ เพื่อคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น ถูกสุขอนามัย ปลอดภัยจากเชื้อโรค โดยสิ่งสำคัญคือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ในการดำเนินงานแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และส่งเสริมองค์ความรู้แก่เกษตรกรผ่านการลงพื้นที่และพูดคุยกัน
“นอกจากการส่งเสริมด้านกระบวนการผลิตแล้ว ด้านการตลาดก็เป็นเรื่องสำคัญ เราจะมีการผลักดันผลผลิตไปสู่ตลาด Modern Trade เพราะผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต คุณภาพ มาตรฐาน จนกระทั่งการแพ็คกิ้งสินค้า และพ่อค้า แม่ค้า ที่ขายเนื้อสัตว์ตามท้องตลาดทั่วไปก็ต้องได้รับการส่งเสริมด้านความสะอาด สามารถส่งต่อคุณภาพถึงมือผู้บริโภคได้โดยตรง โดยยึดหลัก “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” สร้างทางเลือกให้เกษตรกรเพื่อผลิตสิ่งที่ตลาดต้องการ เปิดตลาดใหม่เพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าให้เกษตรกร ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่สร้างความแม่นยำในการเลี้ยงสัตว์เพื่อเพิ่มจำนวนและคุณภาพของผลผลิต สร้างความเป็นธรรมให้เกษตรกรด้วยการให้ราคาผลผลิตที่เกษตรกรควรได้รับ” ดร.ไชยา กล่าว
