เกษตรกรชาวไร่อ้อยดิ้น!เตรียมแนวทางเข้าพบ”ร.อ.ธรรมนัส”รมว. กระทรวงเกษตรฯ หวังนำพืชอ้อยอยู่ในการดูแลแทนกระทรวงอุตสาหกรรมในอนาคตเหตุมีงบประมาณที่จะดูแลและยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรได้ดีกว่า ส่งสัญญาณภัยแล้งฉุดการผลิตสู่ทิศทางขาลง
นายวีระศักดิ์ ขวัญเมือง ผู้แทนชาวไร่อ้อยในคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.) เปิดเผยว่า ตัวแทนชาวไร่ทั่วประเทศอยู่ระหว่างหารือที่จะเข้าพบร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อหารือถึงแนวทางการสนับสนุบให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยได้ย้ายมาอยู่ในการดูแลของกระทรวงเกษตรฯแทนจากขณะนี้ที่อยู่ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมเนื่องจากมีปัจจัยการสนับสนุนต่าง ๆ ค่อนข้างมากสามารถยกระดับผลผลิตอุตสาหกรรมอ้อยให้มีศักยภาพมากขึ้นได้ในระยะยาว
“ ชาวไร่อ้อยเองหารือเบื้องต้นแล้วเพราะเห็นว่ากระทรวงเกษตรฯเองดูแลอุตสาหกรรมต้นน้ำภาคเกษตรโดยตรงอยู่และมีงบประมาณโดยตรงในการพัฒนา และยังมีโครงการเกษตรแปลงใหญ่ที่มีเม็ดเงินช่วยเหลือทั้งระบบที่ดีกว่า มีงบประมาณในเรื่องของการจัดสรรแหล่งน้ำ และอัตราดอกเบี้ยที่ช่วยเหลือเกษตรกรก็ต่ำกว่า เมื่อเทียบกับการอยู่ภายใต้การกำกับของกระทรวงอุตสาหกรรม ในแง่ของกฏหมายอาจตราเป็นพ.ร.บ.ฯ ใหม่หรือปรับปรุงพ.ร.บ.อ้อย ซึ่งยอมรับว่าใช้เวลาแต่หากรัฐเห็นด้วยทุกอย่างก็จะเร็วขึ้น”นายวีระศักดิ์กล่าว
ปัจจุบันไทยและทั่วโลกเผชิญกับปรากฏการณ์เอลนีโญโดยปีนี้ไทยเจอกับภัยแล้งที่จะมีผลต่อการผลิตอ้อยในฤดูหีบปี 2566/67 ที่จะเปิดหีบในปลายปีนี้โดยผลผลิตอาจลดต่ำกว่า 70 ล้านตันเมื่อเทียบกับปี 2565/66 ที่ผลผลิตอ้อยอยู่ระดับ 93.88 ล้านตันและในฤดูถัดไปปี 2567/68 ยังคงมีแนวโน้มเป็นขาลงจากภาวะภัยแล้งที่จะรุนแรงขึ้นตามที่มีการคาดการณ์ไว้ ดังนั้นจึงเป็นแรงกดดันที่สำคัญสำหรับภาคเกษตรของไทยรวมถึงเกษตรกรเพาะปลูกอ้อยที่ผลผลิตเป็นขาลงในช่วงนี้ ประกอบกับชาวไร่บางส่วนยังคงขยายพื้นที่ไปปลูกมันสำปะหลังที่มีราคาสูงและดูแลง่ายกว่าการปลูกอ้อย
“ ผลผลิตอ้อยที่ตกต่ำทำให้อินเดียประกาศงดการส่งออกน้ำตาลทรายในช่วงต.ค.นี้ทำให้ราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกได้ปรับตัวสูงขึ้น ก็คงจะต้องติดตามผลผลิตจากบราซิล แต่ของไทยเองชัดเจนว่าจะลดลงต่ำกว่าที่คาดไว้ที่เดิมมองไว้ถึง 80 ล้านตัน ซึ่งราคาน้ำตาลตลาดโลกที่สูงส่งผลให้ราคาอ้อยขั้นต้นปี 66/67 เฉลี่ยจะอยุ่ระดับ 1,300 บาทต่อตันที่ความหวาน 10 ซี.ซี.เอส.แม้ว่าราคาจะดีแต่ในแง่ของปริมาณที่ลดลงและต้นทุนที่เพิ่มก็ไม่ได้ทำให้ชาวไร่ได้รับประโยชน์ได้เต็มที่นัก”นายวีระศักดิ์กล่าว
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาเงินสนับสนุนการตัดอ้อยสด 120 บาท/ตันของฤดุการผลิตปี 2565/66 ที่สิ้นสุดการปิดหีบแล้วแต่ชาวไร่อ้อยยังไม่ได้รับนั้นหลังจากที่เข้าหารือกับรมว.อุตสาหกรรมคนใหม่เบื้องต้นได้รับที่จะไปหารือกับนายกรัฐมนตรี ส่วนในฤดูการผลิตปี 2566/67 ทุกฝ่ายคงจะต้องมาหารือในรายละเอียดของการดำเนินการอีกครั้ง