นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผยถึงผลการติดตามโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตและการตลาดโคเนื้อรองรับ FTA ของลานทองฟาร์ม อ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุน FTA เมื่อปี 2563 เป็นจำนวน 25.86 ล้านบาท ว่า การเข้าร่วมโครงการของลานทองฟาร์ม ส่งผลให้ฟาร์มได้รับองค์ความรู้ และคำแนะนำในด้านต่างๆ จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเครือข่ายโคเนื้อล้านนา จ.เชียงราย และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด ทั้งในเรื่องการพัฒนาสายพันธุ์ สูตรอาหารสัตว์เพื่อลดต้นทุน รวมถึงวิธีการบริหารจัดการฟาร์มอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้ลานทองฟาร์มสามารถบริหารจัดการฟาร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการให้อาหาร การฉีดวัคซีนป้องกันโรค และยังมีเทคนิคการผลิตลูกโคสายพันธุ์ Beefmaster พันธุ์โคที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว ทนทุกสภาพแวดล้อม
“สำหรับเทคนิคในการผลิตลูกโคสายพันธุ์ Beefmaster มีวิธีการกำหนดในระยะเวลา 1 ปี แม่โค 1 ตัว ต้องผลิตลูกโคให้ได้ 1 ตัว โดยแยกคอกกักแม่โคก่อนคลอด 1 เดือน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนคลอด หลังจากคลอดต้องดูแลแม่โคอย่างใกล้ชิดและเตรียมบำรุงด้วยอาหารข้นที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เมื่อลูกโคอายุ 4 เดือนทำการแยกลูกโคออกจากแม่ เพื่อให้แม่โคมีโอกาสฟื้นฟูสุขภาพเร็ว ลดภาระของแม่โคที่ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อตั้งท้องในปีถัดไป ระยะนี้จะให้ลูกโคกินอาหารข้น รวมถึงแร่ธาตุต่างๆ เพื่อการเติบโตที่สมบูรณ์และแข็งแรง ในส่วนการให้อาหารโค เน้นลดต้นทุนการผลิตโดยใช้วัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นมาปรับสูตรอาหารให้เหมาะสมกับโคในแต่ละรุ่น โดยใช้วัตถุดิบที่สามารถหาได้ในท้องถิ่น เช่น ฟาง รำ กากซีอิ๊ว โค 200 ตัว มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหารโคประมาณเดือนละ 150,000 บาท หรือตัวละ 750 บาทต่อเดือน”
รองเลขาธิการ สศก.เผยถึงการจำหน่ายโคเพศผู้ให้วิสาหกิจชุมชน จะมีการกำหนดราคารับซื้อโคเนื้อในราคาประกัน กก.ละ 100-110 บาท จะแตกต่างจากราคาที่พ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อในพื้นที่ในราคา 60-70 บาท มีการจำหน่ายโคเพศผู้ให้กับวิสาหกิจชุมชนไปแล้วมากกว่า 50 ตัว คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1.39 ล้านบาท
“ผลสำเร็จจากการเข้าร่วมโครงการ ส่งผลให้เกษตรกรที่ผลิตโคเนื้อคุณภาพ มีความเข้มแข็ง บริหารจัดการฟาร์มอย่างมีระบบและขั้นตอน มีตลาดรองรับที่แน่นอน จำหน่ายในราคาประกันของโครงการ บริหารจัดการวัตถุดิบในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ ยกระดับมาตรฐานและประสิทธิภาพการผลิตโคเนื้อ ตั้งแต่การผลิตจนถึงการตลาด พัฒนาสายพันธุ์โคให้ตรงตามความต้องการตลาดสามารถรองรับผลกระทบที่จะเกิดจาก FTA ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ” นางธัญธิตา กล่าว.