ค้นหา

‘อภัยภูเบศร’ ยกผลวิจัยทั่วโลกระบุชัด ‘บัวบก’ ป้องกันสมองเสื่อม

มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
เข้าชม 434 ครั้ง

อภัยภูเบศร ยกผลวิจัยทั่วโลกระบุชัด ‘บัวบก’ ป้องกันสมองเสื่อม แต่การปลูกควรเป็นระบบอินทรีย์ ชวนพบผู้เชี่ยวชาญแนะนำได้ในงานเสวนา ‘รับมือสังคมสูงวัย ด้วยสมุนไพรชะลอเสื่อม’ ได้ฤกษ์แจกบัวบกยักษ์ ศาลายา1 18 พ.ย. นี้

สืบเนื่องจาก “ภาวะสมองเสื่อม” เป็นปัญหาสุขภาพที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในปัจจุบัน จากบทความของ The Lancet Public Health ของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ตีพิมพ์บทความเรื่อง การประมาณความชุกของภาวะสมองเสื่อมทั่วโลกในปี 2019 และความชุกที่คาดการณ์ไว้ในปี 2050 ระบุว่า ภายในปี 2593 ทั่วโลกจะมีผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมมากถึง 153 ล้านคน เพิ่มจาก 57 ล้านคนในปี 2562 โดยมีอัตราการเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่าในแต่ละปี การรักษาในปัจจุบัน นอกเหนือจากการค้นหากลุ่มเสี่ยงเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรักษาได้เร็วขึ้นแล้ว การป้องกันก็มีส่วนสำคัญมาก เพราะการพัฒนาการไปสู่ภาวะสมองเสื่อมนั้นใช้เวลาในการสะสมโปรตีนพิษในสมอง 15-20 ปี โดยไม่แสดงอาการ โดยปัจจุบันมีคำแนะนำหลายอย่าง ทั้งการพักผ่อน นอนหลับ ทำจิตใจให้สงบ มีสมาธิ และการรับประทานอาหาร

มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งเป็นองค์กรที่นำองค์ความรู้ภูมิปัญญาดั้งเดิมมาผนวกกับองค์ความรู้สมัยใหม่เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้สมุนไพรที่เหมาะสม จึงได้จัดงาน เสวนาวิชาการ “รับมือสังคมสูงวัย ด้วยสมุนไพรชะลอเสื่อม“ ในวันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2566 ณ ศูนย์การค้า เกทเวย์ แอท บางซื่อ (Gateway at Bangsue) ชั้น 1 ตรงข้ามโรงพยาบาลบางโพ กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนนำความรู้ด้ายสมุนไพรไปใช้ร่วมกับดูแลสุขภาพองค์รวมเพื่อป้องกันการเกิดสมองเสื่อม

ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า จากงานวิจัยพบว่า การป้องกันภาวะสมองเสื่อม เป็นเรื่องที่มีความคุ้มค่า ทั้งในด้านการลดค่าใช้จ่ายจากการรักษาโรคและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วย โดยเฉพาะในผู้ป่วยภาวะรู้คิดบกพร่องเล็กน้อย (Mild Cognitive Impairment หรือ MCI ) แต่ถึงแม้จะยังมีไม่มีภาวะดังกล่าว การป้องกันก็ยังเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น ทั้งนี้สมุนไพรจะมีบทบาทมากในด้านการส่งเสริมสุขภาพ เพราะสมุนไพรแต่ละชนิดมีสารสำคัญหลากหลายชนิด ที่ช่วยเสริมฤทธิ์ในการดูแลสุขภาพ

“ในเรื่องสมองเสื่อมนั้น มีงานวิจัยจำนวนมากของบัวบก ที่พบว่ามีส่วนช่วยในการทำงานของด้วยกลไกที่หลากหลาย ทั้งเพิ่มการไหลเวียนของเลือด กระตุ้นการสร้าง โปรตีนที่ชื่อว่า “Brain-derived neurotrophic factor หรือ (BDNF)“ ซึ่งเป็นโปรตีนที่เป็นอาหารของเซลล์ประสาทสมอง ช่วยชะลอการสลายของสารสื่อประสาทที่ทำหน้าที่จดจำ และยังมีฤทธิ์ปกป้องสมองจากสารพิษ หรือหากสมองถูกทำร้ายจากสารพิษแล้ว ก็จะช่วยลดการอักเสบฟื้นฟูและเยียวยาสมองให้กลับมาสู่สภาวะปกติ ในต่างประเทศมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการวิจัยช่วยเสริมความจำ และปรับอารมณ์ให้สดชื่น ซึ่งความรู้เหล่านี้ไม่ได้ใหม่เลยสำหรับสังคมไทยที่ใช้สมุนไพรมานาน” ดร.สุภาภรณ์ กล่าว

ดร.สุภาภรณ์ กล่าวอีกว่า บัวบก ซึ่งมีรูปร่างเหมือนสมอง เป็นสมุนไพรรับรู้กันว่าช่วยในการบำรุงสมอง เสมือนรหัสธรรมชาติที่ส่งมอบมาให้มนุษย์ คนสมัยก่อนนำบัวบกมาคั้นน้ำกินก่อนนอน ช่วยให้นอนหลับตื่นมาสดชื่น ทำให้อารมณ์ไม่หงุดหงิด ในบางพื้นที่ก็จะใส่พริกไทยนิดหน่อย เพื่อลดความเย็นของบัวบก งานวิจัยภายหลังพบว่า สารพิเพอรีนในพริกไทยช่วยดูดซึมสมุนไพรหลายชนิดเข้าสู่ร่างกาย เป็นความชาญฉลาดของคนในยุคก่อน และในช่วงโควิด 19 ระบาดมีการวิจัยพบว่าบัวบกปั่นกับกล้วยช่วยให้สดชื่น อารมณ์ดี ก็เป็นตัวอย่างของการประยุกต์บัวบกมาใช้

ดังนั้นเราก็สามารถนำบัวบกมาใช้เป็นอาหารบำรุงสมองได้ แต่อย่างไรก็ตามจากข้อมูลของเรา พบว่า บัวบกเป็นสมุนไพรที่ดูดโลหะหนักในดินขึ้นมาสะสมที่ต้นได้มาก ดังนั้นการปลูกบัวบกจึงต้องดำเนินการในพื้นที่ปลอดสารพิษ และมีการดูแลด้วยกระบวนการเกษตรอินทรีย์ เมื่อปลูกแล้วต้องเก็บเกี่ยวด้วยเวลาที่เหมาะสมด้วย

ทางอภัยภูเบศรยังได้ทำการรวบรวมสายพันธุ์บัวบกจากแหล่งต่างๆ ได้ทำการศึกษาความหลากหลายทางสันฐานวิทยาพบว่า บัวบก แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางสันฐานวิทยาไปตามสภาพแวดล้อม พื้นที่ที่ปลูก การดูแลให้น้ำ ปุ๋ยที่เพียงพอที่ส่งผลต่อการงอกงามของบัวบกโดยตรงแล้ว แต่เราก็พบลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของสายพันธุ์บัวบกแต่ละแหล่งด้วยเช่นกัน ซึ่งสิ่งที่สามารถเห็นและเปรียบเทียบได้ชัดที่สุดคือความคงทน ทนต่อโรค ทนต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป การฟื้นตัว เป็นต้น

และเมื่อนำไปวิเคราะห์ความหลากหลายทางพันธุ์กรรมเบื้องต้น โดยการหาลำดับนิวคลีโอไทด์ในบางบริเวณ ของตัวอย่างบัวบกจำนวน 30 ตัวอย่าง เบื้องต้นพบว่าบัวบกเป็นพืชที่มีความใกล้ชิดในสายพันธุ์สูงมาก ซึ่งมีค่า Percent Identity จากการศึกษาในครั้งนี้ อยู่ระหว่าง 86.29 ถึง 100 % แต่ในนี้ก็ยังมีการจำแนกสายพันธุ์ของตัวอย่างบัวบกได้เป็น 3 กลุ่ม และจะนำบัวบกสายพันธุ์ต่างๆที่ทำการรวบรวมไว้ไปจัดแสดงในงานนี้ด้วย เพื่อให้สังคมเห็นลักษณะที่แตกต่างกันของบัวบก และช่วยกันค้นหาสายพันธุ์ที่เหมาะสมในการปลูกแต่พื้นที่ ทางอภัยภูเบศรมีความยินดีที่จะรับบริจาคพันธุ์บัวบกและเป็นที่เก็บรวบรวมสายพันธุ์เพื่อนำไปสู่การพัฒนาสายพันธุ์ต่อไป

นอกจากนี้ ดร.สุภาภรณ์ ยังกล่าวด้วยว่า ในงานดังกล่าว เรามีการแจกต้นพันธุ์บัวบกสายพันธุ์ศาลายา ที่มีใบใหญ่ และสารสำคัญ คือ triterpenes สูงกว่าพันธุ์ดั้งเดิมถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับน่ำหนักเท่ากัน ที่ผ่านการศึกษาวิจัยมามากกว่า 10 ปี เพื่อให้ประชาชนไปใช้ประโยชน์ ขณะเดียวกันก็จะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกมาพูดคุย และให้คำแนะนำการปลูกเพื่อให้ประชาชนผู้สนใจนำสมุนไพรไปใช้สามารถปลูกได้อย่างถูกต้อง และในงานก็มีการนำบัวบกมาปรุงอาหารเพื่อบำรุงสมอง ที่กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งหากสนใจก็สามารถมาพบกันได้ที่ในงานตามวันเวลาที่กล่าวข้างต้น

แชร์ :
ที่มาของเนื้อหา : https://www.thaipost.net/human-life-news/480682/