นโยบายการเปลี่ยนหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตรเป็นเป้าหมายในการปรับปรุงและพัฒนาสิทธิในที่ดินของรัฐบาล สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้เร่งขับเคลื่อนงาน
รัฐบาลได้คิกออฟมอบโฉนดเพื่อการเกษตรเป็นของขวัญ เพิ่มสุขปีใหม่ให้แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินในวันที่ 15 ม.ค.2567 ซึ่งนำร่องก่อน 25,000 ราย พร้อมกันทั่วประเทศ โดยภายในงานนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ส่งสารถึงเกษตรกรทั่วประเทศผ่านวีดีโอ
การมอบครั้งนี้จัดขึ้นที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา สำหรับส่วนภูมิภาคกำหนดจัดงาน ณ ศูนย์บริการเกษตรพิรุณราชในแต่ละจังหวัด
ทั้งนี้ การเปลี่ยนเป็นโฉนดเพื่อการเกษตรดังกล่าวจะอนุญาตให้เปลี่ยนเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 ทั่วประเทศ
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน “Kick off พิธีมอบโฉนดเพื่อการเกษตรเป็นของขวัญปีใหม่ 2567” โดยมีผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าร่วม ประกอบด้วย นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)
รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี ชัยนาท ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ลพบุรี สระบุรี นครนายก สุพรรณบุรี ปราจีนบุรี อุทัยธานี และจังหวัดเพชรบุรี รวมทั้งนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานมอบโฉนดที่จังหวัดชุมพร
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จากนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 ก.ย.2566 ต้องการพัฒนาเอกสารสิทธิการใช้ประโยชน์ให้เป็นโฉนด ซึ่ง ส.ป.ก.ได้ขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว โดยมีคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 30 เห็นชอบปรับปรุงเอกสารสิทธิการใช้ประโยชน์ ส.ป.ก.4-01 ให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตรตามนโยบายรัฐบาล
สำหรับการดำเนินการครั้งนี้มีเกษตรกรที่เข้าคุณสมบัติเปลี่ยนเป็นโฉนดเพื่อการเกษตร 2.27 ล้านแปลง เนื้อที่ 22 ล้านไร่ เกษตรกร 1.6 ล้านคน ซึ่ง ส.ป.ก.ได้จัดพิธีการมอบโฉนดเพื่อการเกษตรให้แก่เกษตรกร พร้อมกันทั่วประเทศ 25,000 ฉบับ
“เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ตามที่รัฐบาลได้ให้สัญญาไว้ เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรทุกคนได้ใช้ประโยชน์ สามารถนำเอกสารนี้ไปสร้างมูลค่าเพิ่มในการประกอบกิจการภาคการเกษตร ซึ่ง ส.ป.ก.จะมอบโฉนดเพื่อการเกษตรให้เสร็จทั่วประเทศโดยเร็ว”
ทั้งนี้ การยื่นขอออกโฉนดเพื่อการเกษตรตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.2566 ถึงวันที่ 13 ม.ค.2567 มีผู้ยื่นความประสงค์ 227,152 แปลง ออกโฉนดไปแล้ว 33,663 แปลง คิดเป็น 275,100 ไร่ เกษตรกร 29,006 ราย
สำหรับสิทธิประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับจากโฉนดเพื่อการเกษตร 5 ด้าน ประกอบด้วย
1.เปลี่ยนมือได้ (โอนสิทธิ) โอนคืน ส.ป.ก.ได้ โดยโอนคืนให้ ส.ป.ก.ทั้งแปลงหรือบางส่วนได้ และได้รับค่าชดเชยหากเกษตรกรไม่ประสงค์ประกอบอาชีพเกษตรกรรม สามารถสละสิทธิให้เกษตรกรอื่นที่มีคุณสมบัติตามกำหนด โดยสามารถเปลี่ยนมือให้แก่เกษตรกรอื่นที่มีคุณสมบัติตาม ส.ป.ก. กำหนดได้
2.เพิ่มวงเงินสินเชื่อ การเข้าถึงแหล่งทุนใหม่ โฉนดที่ดินสามารถเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้โดยขยายวงเงินสินเชื่อให้กับเกษตรกรที่ขอกู้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) หรือใช้ไม้มีค่าที่ปลูกบนที่ดิน ค้ำประกันสินเชื่อให้เต็มวงเงิน 100% และสามารถขอสินเชื่อนโยบายจากกองทุน ส.ป.ก.เต็มวงเงินตามราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์
3.ใช้ค้ำประกันตัวบุคคล โดยเป็นหลักทรัพย์ประเภทหนึ่งที่สามารถค้ำประกันตัวบุคคลทั้งในชั้นสอบสวนและชั้นศาล โดยความร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
4.การสร้างรายได้ให้เกษตรเพิ่มทรัพย์สิน โดยส่งเสริมการปลูกไม้มีค่า 10 ต้นต่อไร่ ซึ่งสามารถใช้ต้นไม้ค้ำประกันสินเชื่อหรือโฉนดต้นไม้ และขาย Carbon Credit โดยความร่วมมือกับ กรมป่าไม้, ธ.ก.ส. และ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.)
5.ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาจากรัฐ ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภคซึ่งมีการทำ MOU 16 หน่วยงาน ด้านการพัฒนาอาชีพ และรับเงินชดเชยหรือเยียวยาภัยพิบัติ