ค้นหา

ชาวโคราช ฮิตปลูก กะหล่ำปลี รายได้งาม ไร่ละแสน เป็นพืชอายุสั้น ได้เงินไว

นางพวงเพ็ญ ชโลมกลาง
เข้าชม 538 ครั้ง

ชาวโคราช ฮิตปลูก กะหล่ำปลี รายได้งาม ไร่ละแสน เผยเป็นพืชอายุสั้น เก็บเกี่ยวได้เร็ว ได้เงินไว ต่างจากพืชเชิงเดี่ยวที่เคยปลูก อย่าง มัน และ อ้อย

เกษตรกรส่วนหนึ่งที่บ้านใหม่สมบูรณ์ ต.บ้านใหม่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา เริ่มปรับเปลี่ยนวิธีการปลูกพืช จากการทำเกษตรแบบเชิงเดี่ยว ปลูกมันสำปะหลังหรืออ้อย หันมาปลูกพืชอายุสั้น อย่างเช่น กะหล่ำปลี กันเป็นจำนวนมาก

หลังมีผู้ทดลองปลูกแล้วได้ผลดี และยังมีตลาดใกล้บ้าน อย่างตลาดดอนแขวนเป็นจุดรับซื้อและกระจายผลผลิตทางการเกษตร ทั้งผักและผลไม้ อยู่ใกล้ๆ บ้านอีกด้วย ทำให้เกษตรกรไม่ต้องแบกรับภาระค่าขนส่งที่สูงมากนัก และมั่นใจว่าผลผลิตที่ออกมาจะมีผู้รับซื้ออย่างต่อเนื่อง

ทำให้ล่าสุดตอนนี้ มีเกษตรกรในบ้านใหม่สมบูรณ์ เปลี่ยนมาปลูกกะหล่ำปลีส่งจำหน่าย แทนการปลูกมันสำปะหลังและอ้อยแล้วกว่า 10 ราย แถมยังปลูกผักอายุสั้นอย่างอื่นอีกกว่า 10 ชนิด เป็นการสร้างรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น

นางพวงเพ็ญ ชโลมกลาง อายุ 42 ปี หนึ่งในเกษตรกรบ้านใหม่สมบูรณ์ กล่าวว่า ตนมีพื้นที่เพาะปลูก 4 ไร่ ก่อนหน้านี้ปลูกมันสำปะหลังเป็นประจำทุกปี คุ้มทุนบ้างขาดทุนบ้าง เพราะราคามันสำปะหลังผันผวน อีกทั้งต้นทุนการเพาะปลูกก็เพิ่มขึ้นประจำ เก็บเกี่ยวได้เป็นรายปี ทำให้มีรายได้ไม่พอจุนเจือครอบครัว

แต่มาในช่วงหลังลงทุนเจาะน้ำบาดาล ทำให้มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี จึงเริ่มหาพืชอายุสั้นมาปลูกทดแทน เพราะเก็บเกี่ยวได้เร็ว ได้เงินไว อีกทั้งยังมีตลาดรับซื้ออยู่ใกล้บ้าน ไม่ต้องลงทุนค่าขนส่งมากนัก โดยหันมาปลูกกะหล่ำปลีส่งขาย เพราะใช้ระยะเวลาเพาะปลูกเพียง 60 วันเท่านั้น สภาพอากาศตอนนี้กำลังเย็นสบาย ทำให้ผักกะหล่ำเจริญเติบโตดี

ส่วนราคาก็เป็นที่น่าพอใจ อยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 8–10 บาทที่หน้าสวน เพราะราคาที่คุ้มทุนจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 6 – 7 บาท และหากช่วงไหนราคาดี จะพุ่งสูงถึงกิโลกรัมละ 15 บาท ซึ่งเมื่อช่วงเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว ตนปลูกกะหล่ำปลี 3 ไร่ ได้เงินกว่า 3 แสนบาทเลยทีเดียว

ด้าน นายนัฐพล ปีกกลาง ผู้ใหญ่บ้านใหม่สมบูรณ์ กล่าวว่า เดิมทีพื้นที่การเกษตรของหมู่บ้านแห่งนี้ จะปลูกพืชเชิงเดี่ยวอย่างอ้อยและมันสำปะหลังเป็นหลัก แต่ช่วงหลัง มีการเจาะน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ในการเกษตรกันมากขึ้น ประกอบกับมีการก่อตั้งตลาดดอนแขวน ซึ่งเป็นตลาดรับซื้อผักผลไม้และกระจายสินค้าการเกษตรท้องถิ่นขึ้น

เกษตรกรจึงมีทางเลือกที่จะปลูกพืชชนิดอื่นทดแทน เพราะการปลูกมันสำปะหลังและอ้อยนั้นต้องใช้ระยะเวลาเกือบ 1 ปี จึงเก็บเกี่ยวได้และไม่แน่นอน ต้นทุนก็สูงขึ้นทุกปี ดังนั้น พืชอายุสั้นอย่างผักจึงเป็นที่สนใจและกำลังเป็นที่นิยมของเกษตรกรในพื้นที่อย่างมาก โดยเฉพาะกะหล่ำปลี

ตอนนี้เกษตรกรกำลังเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกต่อเนื่อง เพราะเป็นพืชที่ลงทุนไม่สูงมากนักหากเทียบกับรายได้ตอบแทน โดยต้นทุนจะอยู่ที่ประมาณไร่ละ 7 – 8 พันบาท ขณะที่รายได้ในช่วงที่กะหล่ำปลีราคาสูงจะสูงกว่า 1 แสนบาทต่อไร่ ทำให้ตอนนี้มีเกษตรกรในหมู่บ้านหันมาปลูกกะหล่ำกันเกือบ 10 รายแล้ว รวมพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 30 ไร่

แชร์ :
ที่มาของเนื้อหา : https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_8054950