ค้นหา

สั่งช่วยชาวนา ลดค่าไฟปั๊มนํ้า มีดิจิทัลศก.โต4%

กระทรวงพลังงาน
เข้าชม 204 ครั้ง

นายกฯ ย้ำหลังประชุมบอร์ดดิจิทัลฯ 15 ก.พ. คืบหน้าแน่นอน ชาวนาเฮ! สั่งกระทรวงพลังงานลดค่าไฟฟ้าปั๊มน้ำเข้านา ม.หอการค้าฯ คาดเศรษฐกิจไทยปี 67 โต 3-3.5% แม้ไม่มีดิจิทัลวอลเล็ต หากเติมเงินหมื่นโตได้ 4%

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่าจะนำข้อเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อป้องกันการทุจริตการดำเนินนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต หารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ยัง ในวันที่ 15 ก.พ.จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต จะมีการพูดคุยกัน และไม่ทราบกรณีที่มีข่าวว่ารัฐบาลได้ยกร่างพระราชบัญญัติกู้เงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดจะคุยกันในวันที่ 15 ก.พ.

เมื่อถามว่า หลังการประชุมพอจะบอกได้หรือไม่ว่าจะมีข่าวดีหรือมีความคืบหน้าในเรื่องนี้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าข่าวดีคืออะไร แต่มีความคืบหน้าให้แน่นอน ซึ่งต้องประชุมก่อน จึงไม่อยากจะบอก เพราะเดี๋ยวถ้าบอกไปว่าจะมีข่าวดีเกิดขึ้น คนที่เห็นต่างเขาก็อาจจะอยากพูดอะไรอีกใช่ไหม มีอะไรก็อยากให้พูดในวันนั้น พูดตรงไปตรงมา เราฝ่ายจัดการคือรัฐบาล จะได้นำข้อคิดไปทำงานให้มันถูกต้อง

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ข้อเสนอของ ป.ป.ช. เป็นข้อพึงสังวร เป็นข้อห่วงใยเหมือนกับที่หลายฝ่ายมีความคิดเห็นแตกต่างออกมา ซึ่งวันนี้รัฐบาลรับฟังความเห็นมาทุกแบบ ทั้งหนุนเต็มที่อยากให้ทำเร็ว และให้ระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ไม่ใช่โครงการแจกเงิน จึงไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะต้องเอาเฉพาะผู้เปราะบางหรือไม่ เพราะโครงการนี้เป็นโครงการกระตุ้นสิทธิที่ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม ประชาชนคนไทยทุกคนต้องมีส่วนร่วมกับการกระตุ้นครั้งนี้

“ความต้องการของเราคือการกระตุ้นครั้งใหญ่ เพื่อให้เกิดการพลิกเศรษฐกิจ แต่การยืดออกไปเรื่อยๆ วันนี้ไม่จบ พรุ่งนี้ไม่จบ ปีนี้ไม่จบ ปีหน้าต่อๆ ไปก็ต้องดูว่าเป็นยาที่ใช้ได้กับสถานการณ์นั้นๆ หรือไม่ อยากให้ถามตัวเองวันนี้เราซื้ออะไรบ้าง หรือซื้ออะไรน้อยลง หากซื้อน้อยเพราะเรามีกำลังซื้อที่น้อยลงเราก็ต้องดูแลจัดการตัวเองมากขึ้น ถ้าเศรษฐกิจยังซึมแบบนี้ ไม่มีอะไรกระตุ้น ก็เหมือนอย่างที่ผมบอก มันจะลามไปเรื่องอื่น ตอนนี้ลามไปที่วิกฤตการเงินเริ่มก่อตัว ผมคิดว่าทำใจกว้างๆ ถ้าดูให้ครบถ้วนการใช้ดุลพินิจตัดสินใจต่างๆ จะใกล้เคียงกับชีวิตจริงของประชาชนมากขึ้น” นายภูมิธรรมระบุ

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า นายกฯ สั่งการภายหลังลงพื้นที่ จ.สระบุรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทราบปัญหาการสูบน้ำในการช่วยเหลือการทำนาปรัง ระบบชลประทาน ซึ่งมีค่าไฟฟ้าสูบน้ำเข้าที่นาแพงมาก ประมาณไร่ละ 500 บาท จึงขอให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพลังงาน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปบูรณาการการทำงานร่วมกัน ที่จะพัฒนาโครงการสูบน้ำด้วยระบบพลังงานแสงอาทิตย์ จะได้ประหยัดต้นทุนให้กับเกษตรกร แต่ระหว่างที่โครงการยังไม่เสร็จ ขอให้กระทรวงพลังงานไปพิจารณาปรับลดค่าไฟฟ้าเป็นกรณีพิเศษให้กับชาวนาด้วย

วันเดียวกัน นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จะพบว่าประชาชนเริ่มมองอนาคตว่าเศรษฐกิจไทยจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นได้จากการท่องเที่ยวในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ตลอดจนภาคการส่งออกที่ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง และสินค้าเกษตรที่มีราคาดีขึ้น ดังนั้นเมื่อรวมกับปัจจัยที่คาดว่าจะเริ่มใช้งบประมาณรายจ่ายปี 2567 ได้ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ จึงทำให้เชื่อว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และเศรษฐกิจไทยน่าจะเห็นการเติบโตที่ชัดเจนในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งแรกของปี 67 ภาคการท่องเที่ยวจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย

ทั้งนี้ ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ จะเติบโตได้ราว 3.0-3.5% แต่หากรัฐบาลสามารถดำเนินโครงการแจกเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตได้เป็นรูปธรรม จะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ มีโอกาสเติบโตได้ใกล้เคียงกับ 4% มากขึ้น โดยศรษฐกิจไทยปีนี้ จะมีแรงขับเคลื่อนมาจาก 4 ประสาน คือ การท่องเที่ยว การส่งออก ราคาสินค้าเกษตร และงบประมาณรายจ่าย ดังนั้นเศรษฐกิจน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวต่อเนื่อง คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนในไตรมาส 4 ความสำคัญอยู่ที่การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ซึ่ง 15 ก.พ.นี้น่าจะชัดเจนว่ารัฐบาลจะขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตไปทางไหน และอย่างไร รวมทั้งข้อมูลจากสภาพัฒน์ที่จะออกมาวันที่ 19 ก.พ.นี้ ซึ่ง ม.หอการค้าฯ เชื่อว่าปี 66 เศรษฐกิจไทยจะยังโตได้มากกว่า 2%

“เศรษฐกิจไทยปีนี้ หากไม่มีดิจิทัลวอลเล็ตก็ยังเติบโตได้ ซึ่งมาจากทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยว การส่งออก พืชผลเกษตรที่ราคาดี เราคาดว่าปีนี้น่าจะโตได้มากกว่า 3% เป็นระยะปลอดภัย ไม่มีปัญหาอะไร ยังเติบโตได้ดี แต่อยู่ที่ว่าเราพอใจการเติบโตในระดับนี้หรือไม่ ถ้าอยากจะโตให้ได้มากกว่า 4% หนึ่งในนั้นที่จะช่วยให้เศรษฐกิจโตเร็วขึ้น คือการเติมดิจิทัลวอลเล็ตเข้าไป ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจโตเร็วขึ้นได้” นายธนวรรธน์ระบุ.

แชร์ :
ที่มาของเนื้อหา : https://www.thaipost.net/one-newspaper/533895/