สวพส. เผยเกษตรกรพื้นที่สูงเฮ ปลดหนี้ เพิ่มรายได้เกือบ 3 เท่า แค่ปรับระบบเกษตร หันมาปลูกพืชทางเลือกที่มีมูลค่าสูง และไม่เผาวัสดุการเกษตร โดยสามารถลดฮอตสปอตในพื้นที่เกษตรได้อย่างชัดเจน
ปัจจุบันประชาชนบนพื้นที่สูงส่วนใหญ่ยังคงยากจน และเข้าไม่ถึงบริการของรัฐ จากข้อมูล TPMAP พ.ศ.2565 พบว่า มี “คนจน” บนพื้นที่สูงมากถึง 261,043 คน มีหนี้สินเฉลี่ย 157,144 บาทต่อครัวเรือน ส่วนใหญ่ยังคงประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลัก และเก็บหาของป่าเพื่อสร้างรายได้เสริม ซึ่งการทำเกษตรตามวิถีและความเชื่อดั้งเดิมนำไปสู่การบุกรุกคุกคามพื้นที่ป่ามากสุดในพื้นที่ภาคเหนือ สูงถึง 651 แห่ง จากทั้งหมด 1,384 แห่งทั่วประเทศ (อ้างอิงข้อมูล GISDA, 2564)
นางสาวเพชรดา อยู่สุข รองผู้อำนวยการด้านการพัฒนา สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนและการเผาบนพื้นที่สูง ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงพิสูจน์ให้ประจักษ์แล้วจากการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวง โดยทำให้เกิดความชัดเจนว่าพื้นที่ไหนเป็นป่า พื้นที่ไหนเป็นพื้นที่ทำกิน เพื่อไม่ให้สองส่วนนี้รุกล้ำซึ่งกันและกัน จากนั้นจึงใช้ความรู้เพื่อปรับเปลี่ยนวิถีในการทำการเกษตรที่เหมาะสมกับสภาพภูมิสังคม ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากการปลูกพืชเสพติดและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นการปลูกพืชทางเลือกควบคู่ไปกับการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติโดยรอบชุมชน จนปัจจุบันถือได้ว่าในพื้นที่โครงการหลวงปลอดการเผา 100%
รอง ผอ.ด้านการพัฒนา สวพส. กล่าวว่า สวพส.ได้นำแนวทางการดำเนินของโครงการหลวงมาปรับใช้ในพื้นที่สูงอื่นๆ ให้ชาวบ้านมีรายได้จากการปลูกพืชทางเลือก โดยใช้พื้นที่น้อย แต่มีรายได้ตอบแทนสูง และไม่ต้องใช้ไฟในการทำงานแทน โดยมีวิธีการทำงานคือ การวิเคราะห์เป็นรายหมู่บ้านเป็นรายคน เลือกพืชเลือกวิธีการประกอบอาชีพที่ตรงตามกับภูมิสังคม เหมาะสมกับพื้นที่มีมาตรฐาน มีตลาดรองรับ เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ จำเป็นต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานที่มาสนับสนุนอย่างเช่น แหล่งน้ำ ไฟฟ้า ถนน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหลายๆ หน่วยงานมากกว่า 30 กรม จาก 7 กระทรวง เข้ามาช่วยในการขับเคลื่อนการพัฒนาร่วมกัน
นางสาวเพชรดา กล่าวต่อว่า จากการดำเนินงานเพื่อแก้ปัญหาความยากจน โดยการปรับระบบเกษตรที่เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมกับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชทางเลือก และไม่เผาวัสดุการเกษตร สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงทั้ง 44 แห่ง พบว่า เกษตรกรกลุ่มสำรวจ จำนวน 266 คน มีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า (153%) จากเดิมที่มีค่าเฉลี่ยรายได้ก่อนปรับระบบเกษตรกร 68,526 บาท/ครัวเรือน/ปี ซึ่งเป็นรายได้ที่ต่ำกว่าเส้นความยากจนของประชาชนบนพื้นที่สูง จากการสำรวจโดย สวพส. 120,483 บาท/ครัวเรือน/ปี เมื่อปรับระบบเกษตรแล้วเกษตรกรมีรายได้จากการจำหน่ายผลิตผล 173,332 บาท/ครัวเรือน/ปี ทำให้มีเงินออมเพิ่มขึ้น ภาระหนี้สินภาคเกษตรลดลง
ในปี 2566 สวพส. เกษตรกรในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง สามารถจำหน่ายผลผลิต เช่น พืชผัก ไม้ผล ชากาแฟ พืชไร่ พืชท้องถิ่น ไม้ดอก จำหน่ายผ่านตลาดท้องถิ่น ตลาดข้อตกลง ตลาดโครงการหลวง ตลาดออนไลน์ และตลาดอุทยานหลวงราชพฤกษ์ สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรรวมมูลค่า 476.59 ล้านบาท คิดเป็นรายได้เงินสดสุทธิทางการเกษตรของเกษตรกรเฉลี่ยต่อครัวเรือน 80,271 บาท/ครัวเรือน/ปี ทั้งนี้ เป็นการส่งเสริมแก่กลุ่มเกษตรกรที่ยากจน หรือด้อยโอกาสเป็นพิเศษตาม TPMAP จำนวน 1,585 ราย สร้างรายได้ 9.03 ล้านบาท