นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ว่าปัจจุบันปริมาณน้ำทางตอนบนที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีน้ำไหลผ่าน 1,135 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 5.26 เมตร
ด้านเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยังคงปรับลดการระบายน้ำเพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มภาคกลาง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปา และกระชังเลี้ยงปลา ควบคู่กับการใช้ระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก รับน้ำเข้าตามศักยภาพของลำน้ำ เพื่อให้เกษตรกรได้นำไปใช้ประโยชน์ ช่วยลดผลกระทบในพื้นที่ตอนล่าง
ส่วนเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 800 ลบ.ม.ต่อวินาที มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ยังคงต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 6 เมตร ทั้งนี้ มวลน้ำได้ล้นข้ามตลิ่งแม่น้ำน้อยในช่วงที่ตลิ่งต่ำ ทำให้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ได้แก่ ต.บ้านกระทุ่ม ต.หัวเวียง และ ต.รางจรเข้ อ.ผักไห่ และ ต.ท่าดินแดง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาผักไห่ สำนักงานชลประทานที่ 12 ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนรับทราบ พร้อมกับเตรียมติดตั้งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรแล้ว
สำหรับสถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 9,746 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 39 ของความจุอ่างฯรวมกันทั้งหมด สามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกกว่า 15,129 ล้าน ลบ.ม.