ค้นหา

พาณิชย์เข้มจับตาราคากะทิสดปรับตัวสูง ชี้จากผลผลิตน้อยช่วงภัยแล้ง

กระทรวงพาณิชย์
เข้าชม 82 ครั้ง

กระทรวงพาณิชย์เผยมะพร้าวผลแก่และกะทิสดราคาปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากผลผลิตในปี 2567 น้อยกว่าความต้องการใช้ จากภาวะฝนแล้งต่อเนื่อง รวมทั้งโรคแมลงศัตรูมะพร้าวระบาด ย้ำกรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดจะติดตามสถานการณ์ราคาใกล้ชิด ไม่ให้มีการฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชนผู้บริโภค

วันที่ 18 ตุลาคม 2567 นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรณีข่าวปัญหามะพร้าวผลแก่และกะทิสดในจังหวัดตรังมีราคาแพง ส่งผลกระทบต่อราคาอาหารและขนมหวานหลายชนิดที่ใช้กะทิเป็นวัตถุดิบที่สำคัญ กรมการค้าภายในได้เข้าไปติดตามสถานการณ์ราคามะพร้าวผลแก่และกะทิสดอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนผู้บริโภค

พร้อมทั้งให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่สำคัญ โดยส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจสุ่มตรวจสอบร้านค้าอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสถานการณ์มะพร้าวผลแก่และกะทิสด พบว่ามะพร้าวผลแก่เป็นสินค้าที่ออกสู่ตลาดตลอดทั้งปี โดยช่วงออกมาก (เม.ย.-ก.ค.) ราคาที่เกษตรกรขายได้จะเคลื่อนไหวอยู่ในเกณฑ์ต่ำ อยู่ที่เฉลี่ย 5-9 บาท/ผล และช่วงออกน้อย (ส.ค.-มี.ค.) ราคาจะปรับสูงขึ้น อยู่ที่เฉลี่ย 18-28 บาท/ผล

สำหรับปี 2567 กระทรวงเกษตรฯ คาดว่าจะมีมะพร้าวผลแก่ในประเทศประมาณ 0.86 ล้านตัน น้อยกว่าปีที่ผ่านมา (0.94 ล้านตัน) และน้อยกว่าผลผลิตย้อนหลังเฉลี่ย 3 ปี (ปี’64-66) ร้อยละ 8.51 และ 7.53 ตามลำดับ เนื่องจากภาวะฝนแล้งต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำฝนไม่เพียงพอกับความต้องการของมะพร้าว รวมทั้งโรคแมลงศัตรูมะพร้าวระบาด (แมลงดำหนาม หนอนหัวดำ และด้วงแรด)

ขณะที่ความต้องการใช้อยู่ที่ 1.19 ล้านตัน โดยเป็นความต้องการใช้ของตลาดผู้ค้าส่ง/ตลาดสด ประมาณร้อยละ 35 และโรงงานกะทิสำเร็จรูปประมาณร้อยละ 65 ทั้งนี้ โรงงานได้นำเข้ามะพร้าวผลมาใช้ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ซึ่งช่วยให้ภาวการณ์ขาดแคลนมะพร้าวผลภายในประเทศผ่อนคลายได้ระดับหนึ่ง สำหรับแนวโน้มราคามะพร้าวผลแก่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีก่อน ตามปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดน้อย ปัจจุบัน (16 ต.ค. 67) ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ 19.08 บาท/ผล

แชร์ :
ที่มาของเนื้อหา : https://www.prachachat.net/economy/news-1676336