- “ลานีญา” อาจทำให้ไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องเผชิญกับฝนตกหนักมากขึ้นจนถึงสิ้นปี 2024 ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม
- ช่วงที่เกิดลานีญาอุณหภูมิผิวน้ำจะอุ่นขึ้น น้ำก็จะระเหยมากขึ้น ทำให้ความชื้นในชั้นบรรยากาศด้านล่างเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีฝนตกมากขึ้น
- ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเผชิญกับทั้งฝนตกและสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้นมากขึ้นเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นักพยากรณ์อากาศคาดการณ์ว่าสภาพอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเจอฝนตกหนักอย่างน้อยอีก 2 เดือน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่า “ปรากฏการณ์ลานีญา” กำลังจะเริ่มขึ้น - ลานีญาทำให้เกิดฝนตกหนักได้อย่างไร ?
“ลานีญา” เป็นปรากฏการณ์บรรยากาศมหาสมุทรคู่กันซึ่งเกิดขึ้นคู่กับ “เอลนีโญ” ในช่วงที่เกิดลานีญา อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลทั้งมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลางตะวันออกแถบเส้นศูนย์สูตรจะต่ำกว่าปกติ 3-5 องศาเซลเซียส ซึ่งจะคงอยู่เป็นเวลาหลายเดือน หรืออาจนานเป็นปี
ดร.หวัง จิงหยู ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านภูมิศาสตร์กายภาพที่สถาบันการศึกษาแห่งชาติสิงคโปร์ (NIE) กล่าวว่า ในสถานการณ์ปรกติแล้ว ทะเลในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกจะอุ่นกว่าทะเลในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันออก แต่เมื่อเข้าสภาวะลานีญา อุณหภูมิผิวน้ำทะเลในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกจะอุ่นขึ้นอีก 0.5-1 องศาเซลเซียส
เมื่ออุณหภูมิผิวน้ำจะอุ่นขึ้น น้ำก็จะระเหยมากขึ้น ทำให้ความชื้นในชั้นบรรยากาศด้านล่างเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีฝนตกมากขึ้น
ในทางกลับกัน ช่วงที่เกิดเอลนีโญ ซึ่งอาเซียนเจอไปตั้งแต่เดือนมีนาคม-เมษายนที่ผ่านมา อุณหภูมิผิวน้ำทะเลในแปซิฟิกตะวันตกจะเย็นกว่าและอุ่นกว่าในแปซิฟิกตะวันออก ทำให้เกิดสภาพอากาศ
ลานีญาจะกินเวลานานเพียงใด ?
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาเฉพาะทางอาเซียนเผยว่า ปรากฏการณ์ลานีญาน่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม-พฤศจิกายนเป็นต้นไป และคาดการณ์ว่าจะคงอยู่จนถึงต้นปี 2568 ซึ่งจะทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนใต้ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีฝนตกหนักกว่าปรกติ
สอดคล้องกับข้อมูลของ สำนักงานบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) ในสหรัฐ คาดการณ์ว่ามีโอกาสประมาณ 60% ที่ปรากฏการณ์ลานีญาจะเกิดขึ้นภายในเดือนพฤศจิกายน และจะคงอยู่จนถึงมกราคม-มีนาคมของปีหน้า
ดร.ธรูบาจโยติ ซามันตา นักวิจัยอาวุโสจากหอสังเกตการณ์โลกของสิงคโปร์ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง กล่าวว่า ลานีญาอาจช่วยให้แหล่งน้ำใต้ดินเพิ่มมากขึ้น เพราะน้ำจะซึมผ่านชั้นดินที่ลึกลงไป ซึ่งจะมีประโยชน์กับภาคอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันก็ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศให้ดีขึ้น และมีอุณหภูมิลดต่ำลง
ขณะเดียวกัน มีความเป็นไปได้สูงที่อาจเกิดน้ำท่วมเฉพาะพื้นที่จะเพิ่มขึ้น หากมีปริมาณน้ำฝนที่มากกว่าค่าเฉลี่ย ในช่วงที่ระดับน้ำทะเลสูงอยู่แล้ว เช่น ในช่วงที่น้ำขึ้นสูงตามฤดูกาล และบางประเทศในอาเซียนอาจเผชิญน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำที่มีการระบายน้ำไม่ดี รวมถึงเกิดดินถล่มและโคลนถล่มในพื้นที่ภูเขา
ฝนตกมากเกินไปไม่ใช่ข้อดีสำหรับการเกษตรเสมอไป เพราะลานีญาทำให้เกิดฝนตกที่ทำลายพืชผลทางเกษตร ได้ผลผลิตลดลง ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ ตัวอย่างเช่น อุทกภัยในมาเลเซียเมื่อปี 2564 ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกมากกว่า 62,500 ไร่ ทำให้ผลผลิตข้าวลดลงมากกว่า 200,000 ตัน ซึ่งต้องใช้เวลาฟื้นฟูหลายปีกว่าจะฟื้นฟูความเสียหายด้านโครงสร้างพื้นฐาน และในตอนนี้ยอดการผลิตข้าวในมาเลเซียยังคงไม่กลับมาในระดับปรกติ