ค้นหา

“นฤมล” ไฟเขียวส่งเรื่องดีเอสไอ รับ “ยางเถื่อน”เป็นคดีพิเศษ

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เข้าชม 79 ครั้ง

“นฤมล” ไฟเขียว กยท. ส่งสำนวน คดี “ยางเถื่อน” ให้ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ ฟันผู้ร่วมขบวนการ หลังสร้างความเสียหายกว่าหมื่นล้าน พบโยงใยเจ้าหน้าที่รัฐ เตรียมขยายผลฟันโบรกเกอร์และผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลัง ขณะเตรียมชง กนย. ใช้งบ 4.5 หมื่นล้าน ช่วยชาวสวน ป้องราคายางตก
จากปัญหาการลักลอบนำเข้ายางพาราเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดนไทย โดยเฉพาะยางพาราจากประเทศเมียนมาที่มีราคาตํ่ากว่าราคายางไทย ที่ผ่านมาพบมีการสวมสิทธิยางพาราไทย สร้างความเสียหายให้กับประเทศ และส่งผลทำให้ราคายางในประเทศตกตํ่าต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการบริหารจัดการยางพารา โดยเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2566 ได้มีการประมวลความเสียหายมากกว่าหมื่นล้านบาท

นายเพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (ประธานบอร์ด กยท.) และอดีตคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในการบริหารจัดการยางพารา เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีการประชุมหารือในวาระเร่งด่วน กับนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้เป็นประธานการประชุม มีมติเห็นด้วยที่จะทำตามกระบวนการที่สำคัญคือจะส่งเรื่องคดียางเถื่อน ให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อรับเป็นคดีพิเศษ เหมือนคดีหมูเถื่อน เนื่องจากเรื่องนี้ได้สร้างความเสียหายมาอย่างยาวนาน นับหมื่นล้านบาท

โดยกระบวนการมีบริษัท ทำหน้าที่เป็นนายหน้า (โบรกเกอร์) ในลักษณะเป็นยี่ปั๊วรายใหญ่รับจ้างซื้อยางเข้าโรงงานให้กับบริษัทต่างๆ โดยไปรับซื้อจากกลุ่มขบวนการที่รับซื้อยางเถื่อนนำมาขายต่อให้กับบริษัทต่างๆ ในประเทศ ซึ่งถามว่าบริษัทต่างๆ รู้หรือไม่ว่าเป็นยางเถื่อนก็รู้ แต่เมื่อราคาถูกกว่ายางไทย ก็หลับตาข้างหนึ่งเพื่อลดต้นทุน มองว่าเป็นการเอาเปรียบและซํ้าเติมเกษตรกรจากราคาตกตํ่าผลผลิตลดลงจากโรคใบร่วงและภัยแล้ง ทำให้กรีดยางได้น้อยลง
“กลุ่มบริษัทนี้มีนักการเมืองหนุนหลัง เป็นผู้มีอิทธิพล เบื้องหลังมีข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงานเข้าไปมีเกี่ยวข้อง รับส่วยรับสินบน ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เอื้อให้บริษัทกระทำการมาอย่างต่อเนื่องหลายปีแล้ว ซึ่งจากกลุ่มคณะทำงานฯ ก็มาตั้งเป็นหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช (Nakaraja Task Force) หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “ชุดปฏิบัติการพิเศษป้องกันและปราบปรามสินค้าปศุสัตว์ผิดกฎหมาย” แต่งตั้งโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เริ่มปฏิบัติภารกิจ (เมื่อ 30 พ.ย. 2566 )”

ทั้งนี้ได้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ในการเข้าตรวจค้น ดำเนินคดี ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่ออายัดทรัพย์ได้มีการสนธิกำลังกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง.) ,สำนักงานอัยการสูงสุด, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กองบัญชาการกองทัพไทย และดีเอสไอ เพื่อป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิด

แชร์ :
ที่มาของเนื้อหา : https://www.thansettakij.com/business/trade-agriculture/610273