หมดปัญหาแมลงศัตรูพืชมากวนใจ วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้าน รวมสูตรเด็ดมาให้เกษตรกรหรือชาวสวน สามารถนำไปทำตามกันได้ง่ายๆ ช่วยลดต้นทุนการใช้สารเคมี อีกทั้งยังเป็นสมุนไพรที่หาได้ไม่ยาก ตามตลาดมีขาย ขั้นตอนการทำและวิธีการใช้
1.สาบเสือ
จากงานวิจัยกรมวิชาการเกษตร พบว่า “สาบเสือ” สามารถนำมาใช้ป้องกันกำจัดหนอนใยผัก หนอนกระทู้ เพลี้ยอ่อน ด้วงถั่วเขียว ฆ่าเชื้อรา แบคทีเรียและไวรัส สาเหตุโรคพืชได้อีกด้วย มีสารออกฤทธิ์ คือ limonene, pinene และ naphthoquinone
สูตรที่ 1 : น้ำหมัก 1 ลิตร + น้ำยาล้างจาน 30 ลิตร ฉีดพ่น
วิธีใช้ : นำต้นและใบสาบเสือมาตากแห้ง บดให้ละเอียดเป็นผง 400 กรัม แช่ในน้ำ 8 ลิตร แล้วคนให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง จากนั้นกรองเฉพาะน้ำสกัด มาใช้ฉีดพ่นไล่แมลงทุก 7 วัน ในช่วงเย็นเมื่อไม่มีแสงแดด ก่อนใช้ ผสมสบู่เหลวหรือน้ำยาล้างจานเป็นสารจับใบ สามารถใช้สาบแร้งสาบกา (Bily-goat Weed) ช่วยป้องกันและกำจัดแมลงแทนได้ โดยมีวิธีใช้เช่นเดียวกับสาบเสือ นอกจากนี้ สาบแร้งสาบกายังช่วยป้องกันวัชพืชได้ด้วย
สูตรที่ 2 : ต้นและใบ ผึ่งลมให้แห้ง บดเป็นผง นำมาแช่น้ำ 400 กรัมต่อน้ำ 3 ลิตร กวนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ค้างคืน
วิธีใช้ : ก่อนใช้กรองเอาแต่น้ำ ฉีดพ่นทุก 7 วัน ป้องกันและไล่หนอนกระทู้ผัก หนอนใยผัก
สูตรที่ 3 : นำต้นสาบเสือ 500 กรัม มาหมักด้วยเหล้าขาว 1 ลิตร ค้างคืนทิ้งไว้
วิธีใช้ : กรองเอาแต่น้ำ ไปพ่นป้องกันกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา แบคทีเรีย และหนอนใยผัก
สูตรที่ 4 : ใบสด 10 กรัม ผสมกับใบแห้ง 30 กรัม บดให้ละเอียด แล้วนำมาคลุกถั่วเขียว 100 กรัม
วิธีใช้ : กรองเอาแต่น้ำ ไปพ่นป้องกันกำจัดแมลงด้วงถั่วเขียวและมอดข้าวสาร
2.ยาสูบ
ยาสูบมีประสิทธิภาพในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช เช่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ ข้อดีของการใช้สารสกัดยาสูบคือ มีราคาถูก ปลอดภัยต่อเกษตรกรผู้ใช้มากกว่าการใช้สารเคมี ไม่มีสารพิษตกค้างในผลผลิตจึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค เมื่อทำการเก็บเกี่ยวตามคำแนะนำ ไม่ตกค้างในดินและสภาพแวดล้อม
สูตร : น้ำหมัก 1 ลิตร + น้ำยาล้างจาน 30 ลิตร ฉีดพ่นป้องกันและกำจัดหนอนกอ หนอนชอนใบ หนอนเจาะยอดกะหล่ำ หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนผีเสื้อ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ ไรต่างๆ และด้วงหมัด-กระโดดได้ดี และช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อราด้วย
วิธีใช้ : ใช้ได้ทั้งใบสดและใบแห้ง โดยแช่ใบยาสูบ 1 กิโลกรัมในน้ำ 2 ลิตร หมักทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นกรองเฉพาะน้ำสกัด มาผสมกับน้ำ 60 ลิตร แล้วนำไปฉีดพ่นในแปลงผัก หลังจากนั้น 3-4 วันแมลงจะตาย
3.ฝักคูน
ในฝักคูนมีสารฟลาโวนอยด์ ทำให้พืชแข็งแรง ต้านทานโรคและแมลงได้ดี ฝักแก่ยังมีสารที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทของแมลง สามารถกำจัดหนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม และด้วงต่างๆ ได้ดี
สูตร : น้ำหมัก 2 ช้อนโต๊ะ + น้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน กำจัดหนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม และด้วงต่างๆ ได้ดี
วิธีใช้ :
– บดฝักคูน 1 กิโลกรัมให้ละเอียด แช่ในน้ำ 20 ลิตร แล้วหมักทิ้งไว้ 3-4 วัน จากนั้นกรองเฉพาะน้ำสกัดมาใช้ ก่อนใช้ ผสมสบู่เหลวหรือน้ำยาล้างจาน 2-3 หยด เป็นสารจับใบ ฉีดพ่นต้นผักทุก 7-10 วัน ในช่วงเย็นเมื่อไม่มีแสงแดด
– บดฝักคูน 300 กรัมให้ละเอียด แช่ในเหล้าขาว 1 ลิตร นาน 7 วัน จากนั้นกรองเฉพาะน้ำสกัดมาใช้ ในอัตรา 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 10 ลิตร ก่อนใช้ ผสมสบู่เหลวหรือน้ำยาล้างจาน 2-3 หยดเป็นสารจับใบ ฉีดพ่นต้นผักทุก 7-10 วัน ในช่วงเย็นเมื่อไม่มีแสงแดด
4.ขี้เหล็ก
ในใบขี้เหล็กมีสารกลุ่มโครโมน ซึ่งมีฤทธิ์คลายเครียดและทำให้นอนหลับ และสารกลุ่ม anthraquinones ที่มีผลต่อระบบประสาทในร่างกายของแมลงบางชนิดอีกด้วย จึงมีผลทำให้สามารถไล่แมลงจากพืชได้ หากน้ำสกัดมีความเข้มข้นสูง สามารถกำจัดหนอนต่างๆ ได้ดี
สูตร : น้ำหมัก 4 ช้อนโต๊ะ + น้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7 วัน
วิธีใช้ : บดหรือตำใบขี้เหล็ก 3 กิโลกรัมให้ละเอียด แล้วแช่ในน้ำ พอท่วม เติมกากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม หมักทิ้งไว้นาน 1 เดือน จากนั้นกรองเฉพาะน้ำสกัดมาใช้ ในอัตรา 4 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นต้นผักทุก 7 วัน ในช่วงเย็นเมื่อไม่มีแสงแดด
5.ขมิ้นชัน
เหง้าของขมิ้นมีน้ำมันหอมระเหย ช่วยขับไล่และกำจัดแมลงได้หลายชนิด ป้องกันและกำจัดแมลงได้หลายชนิด เช่น หนอนหลอดหอม หนอนกระทู้ผัก หนอนใยผัก หนอนแมลงวันเจาะต้นถั่ว หนอนเจาะยอดกะหล่ำ หนอนผีเสื้อต่างๆ ด้วงงวงข้าว ด้วงถั่วเขียว แมลงวันทอง แมลงวันแตง และไรแดง
สูตร : ขมิ้นชัน 1 กิโลกรัม + น้ำ 40 ลิตร หมัก 24 ชั่วโมง ฉีดพ่นทุก 7 วัน
วิธีใช้ : ตำหรือบดเหง้าแก่สด 1 กิโลกรัมให้ละเอียด แช่ในน้ำ 20 ลิตร แล้วหมักทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง จากนั้นกรองเฉพาะน้ำสกัดมาใช้ฉีดพ่นไล่แมลง ก่อนใช้ ผสมสบู่เหลวหรือน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา เป็นสารจับใบ โดยฉีดพ่นต้นผักทุก 7 วัน ในช่วงเย็นเมื่อไม่มีแสงแดด
6.หางไหล
หางไหล หรือโล่ติ๊น มีลักษณะเป็นไม้เถาเลื้อย จัดว่าเป็นพืชที่มีศักยภาพในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช เนื่องจากมีสารโรติโนน ซึ่งพบมากในส่วนของรากและลำต้น สารนี้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช ป้องกันหนอน ศัตรูพืชผัก เช่น หนอนกระทู้ผัก หนอนใยผัก หนอนชอนใบ หนอนม้วนใบ หนอนเจาะยอดกะหล่ำ หนอนผักกาด และเพลี้ยชนิดต่างๆ ได้ดี
สูตร : บดหางไหล 200 กรัม + น้ำ 10 ลิตร + น้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา แช่ทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง แล้วนำไปฉีดพ่น
วิธีใช้ : บดรากหางไหล 200 กรัมให้ละเอียด ห่อใส่ในผ้าขาวบางแล้วแช่ในน้ำ 10 ลิตร ผสมสบู่เหลวหรือน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา เป็นสารจับใบ แช่ทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง จึงนำไปใช้ฉีดพ่นต้นผักในช่วงเย็นเมื่อไม่มีแสงแดด
7.บอระเพ็ด
เถามีสารรสขมชื่อ พิโครติน (Picroetin) ส่วนเถาและรากมีสารโคลัมบิน (Columbin) ช่วยป้องกันและกำจัดหนอนกระทู้ต่างๆ ได้ดี
สูตร : น้ำหมัก 1 ลิตร + น้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7 วัน
วิธีใช้ :
1. ทุบหรือบดเถาบอระเพ็ด 1 กิโลกรัม แช่ในน้ำ 20 ลิตร แล้วหมักทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นกรองเฉพาะน้ำสกัดมาใช้ ในอัตรา 1 ลิตรต่อน้ำ 10 ลิตร โดยผสมสบู่เหลวหรือน้ำยาล้างจาน 2-3 หยด เป็นสารจับใบ ฉีดพ่นต้นผักทุก 7 วัน ในช่วงเย็นเมื่อไม่มีแสงแดด
2. สับเถาบอระเพ็ด 5 กิโลกรัมเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วทุบให้แตก แช่ในน้ำ 20 ลิตร หมักทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง จากนั้นกรองเฉพาะน้ำสกัดมาใช้ในอัตรา 1 ลิตรต่อน้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นตามแปลงผัก หรือนำเถาบอระเพ็ดสับ 1 กิโลกรัม หว่านในแปลงผักขนาด 3 ตารางเมตรก็ได้
8.ข่า
พืชชนิดนี้มีความพิเศษตรงที่ทนความแล้ง ต้านทานโรคได้ดี ปลูกและดูแลง่าย สามารถปลูกข่าแซมหรือปลูกดักทิศทางแมลง ช่วยลดการเข้าทำลายของแมลงในพืชผลอื่นๆ ได้ด้วย สามารถป้องกันและกำจัดแมลงได้ดี โดยเฉพาะแมลงวันทองและด้วงเต่าแตง
สูตร : ข่า 1 กิโลกรัม + น้ำ 40 ลิตร หมัก 24 ชั่วโมง ฉีดพ่นทุก 7 วัน
วิธีใช้ : หั่นหรือบดเหง้าข่าสดหรือตากแห้ง 1 กิโลกรัมให้ละเอียด แช่ในน้ำ 40 ลิตร แล้วหมักทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง จากนั้นกรองเฉพาะน้ำสกัดมาใช้ฉีดพ่นไล่แมลง ก่อนใช้ ผสมสบู่เหลวหรือน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา เป็นสารจับใบ โดยฉีดพ่นต้นผักทุก 7 วัน ในช่วงเย็นเมื่อไม่มีแสงแดดหรือช่วงเช้าก็ได้
9.สะเดา
สารอินทรีย์ที่สกัดได้จากเมล็ดสะเดาที่สำคัญคือ สารอะซาไดแรคติน สามารถออกฤทธิ์ในการป้องกันกำจัดได้หลายรูปแบบ เป็นสารฆ่าแมลง สารไล่แมลง ทำให้แมลงไม่ชอบกินอาหาร ยับยั้งการเจริญเติบโตของแมลง การเจริญเติบโตผิดปกติทำให้หนอนไม่ลอกคราบ หนอนตายในระยะลอกคราบ สารออกฤทธิ์มีผลต่อการสร้างฮอร์โมน ทำให้แมลงมีการผลิตไข่และการฟักไข่ลดน้อยลง สะเดาป้องกันกำจัดเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย ใช้ได้ผลดีกับหนอนกระทู้ หนอนใยผัก หนอนใยกะหล่ำ หนอนเจาะยอดคะน้า หนอนชอนใบ หนอนหลอดหอม หนอนม้วนใบ หนอนเจาะผลมะเขือ หนอนเจาะลำต้นถั่ว เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยไฟ ไรแดง แมลงวันทอง แต่ได้ผลน้อยกับด้วงปีกแข็งกัดกินใบ ด้วงหมัดกระโดด ตัวเต็มวัย มวนแดง มวนเขียว
สูตร : บดเมล็ดสะเดา 1 กิโลกรัม + น้ำ 20 ลิตร + น้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ หมักไว้ 24 ชั่วโมง
วิธีใช้ :
1. คลุกเมล็ดสะเดาบดกับดินขณะเตรียมแปลง ปลูกในอัตรา 1 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ช่วยไล่ตัวอ่อน ด้วงหมัดผัก และหนอนแมลงวันได้ หรือละลายผงสะเดาในน้ำแล้วฉีดพ่นตามแปลงผักก็ได้
2. บดเมล็ดสะเดาพอแตก 1 กิโลกรัม แช่ในน้ำ 20 ลิตร เติมน้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ แล้วหมักทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง จากนั้นกรองเฉพาะน้ำสกัดมาใช้ ในอัตรา 1 ลิตรต่อน้ำ 10 ลิตร โดยผสมสบู่เหลวหรือน้ำยาล้างจาน 2-3 หยด เป็นสารจับใบจะทำให้แมลงตายภายใน 2-5 วัน ฉีดพ่นต้นผักทุก 7 วัน ในช่วงเย็นเมื่อไม่มีแสงแดด
10.สะระแหน่ หอมแดง โหระพา
ใบมีน้ำมันหอมระเหย ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแมลง สามารถป้องกันและกำจัดแมลงหลายชนิด เช่น เพลี้ยอ่อน หนอนแมลงวัน แมลงวัน ยุง และไร
สูตร : อย่างละ 1 กำมือ + น้ำ 1 ลิตร หมัก 24 ชั่วโมง ฉีดพ่นทุก 7 วัน
วิธีใช้ : นำหอมแดง โหระพา และสะระแหน่ อย่างละ 1 กำมือ มาตำหรือบดให้ละเอียด แช่ในน้ำ 1 ลิตร แล้วหมักทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง จากนั้นกรองเฉพาะน้ำสกัดมาผสมกับน้ำ 10 ลิตร ใช้ฉีดพ่นไล่แมลง ก่อนใช้ ผสมสบู่เหลวหรือน้ำยาล้างจาน 2-3 หยดเป็นสารจับใบ ฉีดพ่นต้นผักทุก 7 วัน ในช่วงเย็นเมื่อไม่มีแสงแดด
สมุนไพรบ้านเราไม่ได้มีดีแค่ทำยาอย่างเดียว เรียกได้ว่ามีสรรพคุณเกินความสามารถ นำไปใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน เกิดประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่ม ทำรายได้ให้กับชาวบ้าน เกษตรกร ก่อนที่จะนำสมุนไพรแต่ละชนิดมาใช้ในการป้องกันกำจัดหรือไล่แมลงศัตรูพืช ควรมีการศึกษาหาข้อมูลให้ดีเสียก่อน ว่าจะนำส่วนไหนมาใช้และใช้ในช่วงเวลาใด จึงจะก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในการป้องกันกำจัดแมลง