พอพูดถึง “จระเข้” ก็จะนึกถึง เนื้อ หนัง ล้วนแล้วมีแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ นอกเหนือจากนำเนื้อมาปรุงเป็นอาหาร โดยเฉพาะชาวจีนนิยมบริโภคเนื้อจระเข้ เพราะมีไขมันต่ำ มีการนำมาใช้เป็นส่วนประกอบเข้ากับตัวยาสมุนไพร เพื่อใช้รักษาโรคหอบหืด
นอกจากนั้น ยังมีการบริโภคเลือดจระเข้และอวัยวะภายในต่างๆ ของจระเข้ เช่น ตับ เพราะเชื่อว่ามีสรรพคุณเสริมความแข็งแรงของร่างกาย ช่วยบำรุงโลหิต ป้องกันรักษาโรคทางสายตา ปัจจุบันยังมีการนำผลิตภัณฑ์จากส่วนต่างๆ ของจระเข้มาใช้ทางการแพทย์ เช่น นำมาใช้ผลิตเวชสำอาง และอาหารเสริม
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประกอบด้วย รศ.ดร.จินดาวรรณ สิรันทวิเนติ รศ.ดร.วิน เชยชมศรี ดร.สุดาวรรณ เชยชมศรี ได้ทำการวิจัยและพัฒนาในการใช้ประโยชน์ไขมันจระเข้ ซึ่งเป็นวัสดุเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมการผลิตหนังและเนื้อจระเข้ ศึกษากรรมวิธีในการสกัดน้ำมันที่อุณหภูมิต่ำทำให้ได้น้ำมันจระเข้ที่มีคุณภาพสูง นำมาผสานประโยชน์กับสารสกัดสมุนไพรกระชายดำและพัฒนาสูตรเป็น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจาก “น้ำมันจระเข้กระชายดำ” โดยเป็นผลิตภัณฑ์ไขมันจระเข้ชนิดแรกที่บรรจุในแคปซูลและยังเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ที่มีการนำส่วนผสมของกระชายดำมารวมอยู่ด้วย
น้ำมันจระเข้มีความปลอดภัยสูง สามารถนำมาบริโภค เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมาตรฐานรองรับและเป็นส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม ทำรายได้ให้กับประเทศ จากวัสดุเหลือทิ้งในอุตสาหกรรมการผลิตหนังและเนื้อจระเข้และพืชสมุนไพร ช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรเชิงพาณิชย์ได้อย่างดี