นายถาวร ทันใจ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หารือร่วมกับ ดร. นานา คึนเคล ผู้อำนวยการและผู้ประสานงาน กลุ่มเกษตรและความปลอดภัยด้านอาหาร องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (Dr. Nana Kuenkel : Cluster Director Coordinator – Agriculture and Food Cluster GIZ) พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ในการหารือวันนี้ ทั้งสองฝ่ายได้มีการแลกเปลี่ยนการดำเนินงานและนโยบายที่สำคัญระหว่างกัน รวมถึงฝ่าย GIZ นำเสนอโครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย (Strengthening Climate-Smart Rice Farming: Thai Rice GCF) ภายใต้การสนับสนุนจากกองทุนภูมิอากาศสีเขียว (Green Climate Fund : GCF) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการปรับเปลี่ยนแนวทางการปลูกข้าวในประเทศไทยให้เข้าสู่วิถีการปลูกข้าวที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยลงต่อสภาพภูมิอากาศ โดยนำเทคโนโลยีที่เท่าทันต่อภูมิอากาศ (Climate Smart Agriculture) มาประยุกต์ใช้ อีกทั้งมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทำนาได้อย่างน้อย 2.4 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ และเพิ่มศักยภาพในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของชาวนารายย่อย จำนวนกว่า 253,400 ราย ในพื้นที่ 21 จังหวัดเป้าหมายของโครงการ โดยมีระยะเวลาในการดำเนินโครงการ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2571)
ขณะเดียวกันฝ่าย GIZ มีการดำเนินงานสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) และแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model) ซึ่งการพัฒนาภาคเกษตรในประเทศไทย GIZ มีเป้าหมายพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรด้วยห่วงโซ่คุณค่าด้านการเกษตรที่ยั่งยืนใน 4 มิติ ได้แก่ 1) มิติสังคม โดยส่งเสริมบทบาทเกษตรกร 2) มิติเศรษฐกิจ โดยการสร้างห่วงโซ่มูลค่าด้านการเกษตร 3) มิติสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมความพร้อมในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ 4) มิติความร่วมมือ โดยยกระดับความร่วมมือกับคู่ภาคี โดยเฉพาะหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ทั้งนี้ GIZ ได้ดำเนินการทั้งหมด 22 โครงการ ใน 16 สำนักงาน GIZ ทั่วประเทศ โดยสินค้าที่ GIZ จัดทำโครงการวิจัยได้แก่ ข้าว ข้าวโพด กาแฟ น้ำมันปาล์ม มันฝรั่ง นอกจากนี้ยังมีโครการด้านการจัดการน้ำ การค้าสินค้าเกษตร ชีวมวล (Biomass) เป็นต้น