กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เผย ฝุ่น PM2.5 ภาคอีสานและภาคใต้ อยู่ในภาวะดีขึ้น หลังคุมเข้ม “ห้ามเผา” เอาผิดจริง โดยล่าสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานผลการบังคับใช้กฎหมายในฐานความผิดที่เกี่ยวกับมลพิษทางอากาศ จับมือเผาพื้นที่เกษตร 28 ราย
น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ค่าฝุ่นทั่วประเทศหลายจุดแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานและภาคใต้ ขณะที่ภาคเหนือตอนบนมีค่าฝุ่นเพิ่มขึ้นและเกินเกณฑ์มาตรฐาน
![](https://media.gosmartfarmer.com/2025/02/06104438/image-84-1024x576.png)
ขณะนี้มีการประกาศ “ห้ามเผา” ใน 50 จังหวัดทั่วประเทศ ทำให้แนวโน้มจุดความร้อนในประเทศไทยลดลง โดย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า รายงานจุดความร้อนในประเทศไทย 506 จุด ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ปลูกอ้อย ภาคตะวันตก ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดย 5 ลำดับแรก ได้แก่ จังหวัดตาก กาญจนบุรี นครราชสีมา ลพบุรี เพชรบูรณ์ ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชายังมีจุดความร้อนสูงถึง 1,329 จุด
“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานผลการบังคับใช้กฎหมายในฐานความผิดเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศ มีการตรวจสอบยานพาหนะควันดำ 6,107 ครั้ง โดยสามารถจับกุมผู้ประทำความผิดได้ 266 ราย ส่วนในพื้นที่ กทม. ตรวจสอบ 546 ครั้ง จับกุมพร้อมสั่งแก้ไข 258 ราย ขณะที่การตรวจสอบการลักลอบเผาในพื้นที่เกษตร ได้จับกุมผู้กระทำความผิดแล้ว 28 ราย”
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปภ.ช. ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือกับมาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาทั้งการงดเผาในพื้นที่เกษตร การนำรถยนต์เข้ารับการตรวจสภาพเพื่อลดการปล่อยมลพิษ รวมทั้งร่วมกันแจ้งเบาะแสการลักลอบเผาได้ทางสายด่วน ปภ. 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง