นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในทะเลอ่าวไทย ประจำปี 2568 (ปิดอ่าวไทย) โดยมี นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและพี่น้องชาวประมงในพื้นที่ เข้าร่วม ณ บริเวณท่าเทียบเรือประมงชุมพร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมประมงเตรียมประกาศ “ปิดอ่าวไทย” ใน 2 ช่วงเวลาต่อเนื่องกัน ได้แก่ ช่วงที่ 1 : วันที่ 15 ก.พ. – 15 พ.ค. 2568 กำหนดมาตรการปิดอ่าวไทยตอนกลาง ตั้งแต่ปลายแหลมเขาม่องไล่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถึงอำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเพิ่มเติมรายละเอียดการอนุญาตให้ใช้เครื่องมือประมงบางชนิด และช่วงที่ 2 : วันที่ 16 พ.ค. – 14 มิ.ย. 2568 กำหนดมาตรการปิดอ่าวไทยตอนกลางและเขตต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายแหลมเขาม่องไล่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถึงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมทั้งได้ออกประกาศกรมประมงเพิ่มเติม จำนวน 4 ฉบับ เพื่อให้เกิดความชัดเจนครอบคลุมรายละเอียดด้านเครื่องมือและอุปกรณ์การทำประมง ตลอดจนมาตรการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1) ประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดพื้นที่และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำมีไข่หรือวางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพรและสุราษฎร์ธานี พ.ศ. 2568 ลงวันที่ 22 มกราคม 2568
2) ประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดพื้นที่และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำมีไข่หรือวางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. 2568 ลงวันที่ 22 มกราคม 2568
3) ประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดพื้นที่และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำมีไข่หรือวางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพรและสุราษฎร์ธานี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568
4) ประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดพื้นที่และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำมีไข่หรือวางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568
![](https://media.gosmartfarmer.com/2025/02/13102738/image-144-1024x683.png)
![](https://media.gosmartfarmer.com/2025/02/13102813/image-145-1024x683.png)
![](https://media.gosmartfarmer.com/2025/02/13102829/image-146-1024x683.png)
![](https://media.gosmartfarmer.com/2025/02/13102853/image-147-1024x683.png)
![](https://media.gosmartfarmer.com/2025/02/13102909/image-148-1024x683.png)
![](https://media.gosmartfarmer.com/2025/02/13102959/image-149-1024x683.png)
![](https://media.gosmartfarmer.com/2025/02/13103021/image-150-1024x683.png)
![](https://media.gosmartfarmer.com/2025/02/13103116/image-151-1024x683.png)
![](https://media.gosmartfarmer.com/2025/02/13103150/image-152-1024x683.png)
ทั้งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิดตามตามมาตรา 70 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษ ปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 30 ล้านบาท โดยขึ้นอยู่กับขนาดของเรือประมงหรือปรับจำนวน 5 เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำการประมงแล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า และต้องได้รับโทษทางปกครองอีกด้วย รมช.อัครา กล่าวว่า สำหรับมาตรการ “ปิดอ่าวไทย” เป็นมาตรการสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ในฝั่งทะเลอ่าวไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำและการบริหารจัดการทรัพยากรประมงให้เกิดความยั่งยืน ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้ร่วมบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน รวมถึงพี่น้องชาวประมงในพื้นที่ที่ให้ความร่วมมืออย่างดีมาโดยตลอด ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการปรับปรุงมาตรการในครั้งนี้จะช่วยคุ้มครองพ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำ ให้ได้มีโอกาสผสมพันธุ์ วางไข่และสร้างประชากรสัตว์น้ำรุ่นใหม่ขึ้นมาหมุนเวียนในระบบนิเวศได้อย่างยั่งยืน ในโอกาสนี้ รมช.อัคราและคณะ ได้ร่วมพิธีบวงสรวงพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และพิธีปล่อยขบวนเรือตรวจการประมงจำนวน 14 ลำ เพื่อออกปฏิบัติหน้าที่ในช่วงประกาศใช้มาตรการดังกล่าว
อีกทั้งได้มอบแผ่นป้ายเงินอุดหนุนโครงสร้างความเข้มแข็งกลุ่มการผลิตด้านการประมง ประจำปี 2568 ให้แก่องค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นในเขตจังหวัดชุมพร จำนวนชุมชนละ 100,000 บาท และร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ประกอบด้วย กุ้งแชบ๊วย จำนวน 300,000 ตัว และปลากระบอก จำนวน 2,000 ตัว รวม 302,000 ตัว ลงสู่ทะเลชุมพรเพื่อเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติต่อไป “นอกจากวันนี้ จะได้มาร่วมพิธีปิดอ่าวเพื่อฟื้นฟูและคุ้มครองสัตว์น้ำในฤดูวางไข่ที่จัดขึ้นโดยกรมประมงแล้ว ยังมาเพื่อสร้างมั่นใจให้แก่พี่น้องชาวประมงว่ารัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับทุกปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมงทั้งในเรื่องแรงงานภาคประมง การจำหน่ายเรือออกจากระบบและเรื่องอื่นๆ ได้มีเร่งรัดดำเนินการและเตรียมประกาศข่าวดีให้พี่น้องชาวประมงได้ทราบเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังมีนโยบายด้านการส่งเสริมอาชีพ พร้อมทั้งพัฒนาองค์ความรู้การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเศรษฐกิจ อาทิ กุ้งขาว ปลากระพงขาว ปลากระบอก เพื่อต่อยอดอาชีพและเพิ่มรายได้พี่น้องเกษตรอีกด้วย ” รมช.อัครา กล่าวทิ้งท้าย