ค้นหา

“รมว.นฤมล” ยกระดับรายได้ “เกษตรกร” ด้วยเกษตรมูลค่าสูง ประสาน “ทูตเกษตร” ตั้งเป้าส่งออกสินค้าเกษตร-อุตสาหกรรมเกษตร เพิ่มเป็น 1.9 – 2 ล้านล้านบาท

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เข้าชม 16 ครั้ง

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ภายใต้การบริหารงานได้ให้ความสำคัญและดำเนินการต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 2 เรื่องสำคัญ ตั้งแต่ในช่วงที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คือ เกษตรมูลค่าสูงและเกษตรยั่งยืน ซึ่งในปีนี้ได้เดินหน้าในการเพิ่มสินค้าเกษตรมูลค่าสูง โดยให้เกษตรกรเล็งเห็นถึงโอกาสและความสำคัญ หากมีพื้นที่เหมาะสมก็สามารถหันมาเพาะปลูกได้ เช่น กาแฟ ถั่วเหลือง โกโก้ โดยเราพร้อมสนับสนุนตลอดห่วงโซ่อุปทานไปจนถึงช่องทางการจำหน่าย ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ พร้อมประสานกับหน่วยงานทุกหน่วยงาน เช่น กระทรวงพาณิชย์ ผ่านสำนักงานทูตเกษตรที่อยู่ต่างประเทศ เพื่อผลักดันการส่งออกต่อไป

ศ.ดร.นฤมล กล่าวอีกว่า เมื่อดูรายได้เกษตรกรในปัจจุบันแล้วพบว่า เกษตรกรมีรายได้อยู่ 2 ช่องทาง คือ รายได้จากภาคการเกษตรอยู่ที่ 2.2 แสนบาทต่อปี และรายได้นอกภาคการเกษตรกว่า 2 แสนบาทต่อปี แต่รายได้จากภาคการเกษตร มีเรื่องของต้นทุน ดังนั้น รายได้สุทธิจะอยู่ที่ 89,000 บาทต่อครัวเรือน ทำให้เล็งเห็นว่าจำเป็นจะต้องสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกรเพื่อให้ “กินดีอยู่ดี”

สำหรับภารกิจสำคัญของกระทรวงเกษตรฯ โดยเฉพาะการดูแลพี่น้องเกษตรกร ตั้งแต่ต้นน้ำ ซึ่งได้ให้ความเป็นห่วงและความสำคัญมาก ในช่วงที่ผลผลิตสินค้าเกษตรออกสู่ตลาดเป็นปริมาณมาก ไม่ว่าจะเป็นข้าว ยางพาราและผลไม้ เป็นต้น สำหรับผลผลิตยางพารา ซึ่งเบื้องต้นได้มอบนโยบายให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ทำโครงการสินเชื่อชะลอการขาย เพื่อดูดซับซัพพลายที่จะออกสู่ตลาด เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคายางพาราตกต่ำ ส่วนสินค้าข้าว กระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนนโยบายของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ทำโครงการสินเชื่อชะลอการขาย สินเชื่อในการรวบรวมสินค้าข้าว ซึ่งโครงการเหล่านี้ล้วนเป็นการดูแลซัพพลายไม่ให้ออกสู่ตลาดจนเกินไป  ศ.ดร.นฤมล กล่าวสรุปว่า สำหรับสินค้าเกษตรไทยภาพรวมส่งออกในปี 2567 ที่ผ่านมามีมูลค่า 1.8 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกผลสด มูลค่า 1 ล้านล้านบาท ส่วนสินค้าเกษตรแปรรูป มีมูลค่า 8 แสนล้านบาท มูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 7.5% และในช่วง 3 ปีมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดจีนที่ยังคงอันดับ 1 ของตลาดการส่งออก รองลงมา คือ ญี่ปุ่น สหรัฐ มาเลเซียและอินโดนีเซีย และเชื่อว่าในปี 2568 นี้ โอกาสที่มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร จะเพิ่มขึ้น 1.9 – 2 ล้านล้านบาท ก็คาดหวังว่าเราน่าจะทำได้

แชร์ :
ที่มาของเนื้อหา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/93612